กรมอุทยานแห่งชาติฯ สรรสร้างความรู้ - 21 ส.ค.2563

ความลับของกาแฟขี้ชะมด...คุณ ๆ รู้จัก “โกปิลูวัก (Kopi luwak)” กันไหมครับ?  ความเป็นจริงแล้ว “กาแฟขี้ชะมด” มาจาก “ขี้ของอีเห็น”







                 โกปิลูวัก (Kopi luwak) เป็นภาษาอินโดนีเซีย คนไทยรู้จักกันในนาม “กาแฟขี้ชะมด”  Kopi มีความหมายว่า กาแฟ  ส่วน Luwak นั้นหมายถึง สัตว์ในวงศ์ชะมดและอีเห็น พันธุ์ย่อย Paradoxurus  และพันธุ์ย่อย Paradoxurus ก็คือ “อีเห็น” ครับ !!!

                 เราจึงโดนแกงด้วยความสนิทใจว่า ชะมด ผลิตกาแฟรสชาติดี ราคาแพง... แต่ในความเป็นจริงแล้ว “กาแฟขี้ชะมด” มาจาก “ขี้ของอีเห็น”  ในประเทศไทยนั้น กาแฟขี้ชะมด กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น  มีการทำฟาร์มเลี้ยงชะมดและอีเห็นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อรองรับความต้องการของตลาด  นอกจากผลิตกาแฟแล้ว สัตว์วงศ์ชะมดและอีเห็น (Viverridae) ยังให้ “ไขชะมด” ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในสบู่หรือเครื่องสำอางได้อีกด้วยครับ

                 แอดมินเองก็ได้รับข้อความใน inbox สอบถามการเลี้ยงชะมดหรืออีเห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เป็นจุดริเริ่มของการนำเสนอในประเด็นนี้  ส่วนสำคัญ!!! ที่ต้องศึกษาให้ดีนั่นคือ พันธุ์ของชะมดหรืออีเห็น ที่ท่านจะเลี้ยงครับ เพราะอาจทำให้ท่านติดคุกได้เลยทีเดียวเชียว  ชะมดและอีเห็น ที่พบได้ในประเทศไทยนั้น มีด้วยกัน 11 ชนิด
[https://bit.ly/3kL0WXv ]

                 อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองถึง 8 ชนิด ได้แก่ ชะมดเช็ด ชะมดน้ำ ชะมดแผงสันหางดำ ชะมดแผงหางปล้อง หมีขอ อีเห็นลายเมฆ อีเห็นลายเสือ และอีเห็นลายเสือโคร่ง และไม่อยู่ในบัญชีอีก 3 ชนิด ได้แก่ อีเห็นข้างลาย อีเห็นเครือ และอีเห็นหูด่าง  สำหรับ ชะมดเช็ด อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองที่อนุญาตให้เพาะพันธุ์ได้  ดูการขออนุญาตเพาะพันธุ์ที่นี่ [https://bit.ly/3ajuGpW  ]  หรือจะให้แน่ใจ โทรปรึกษาส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า ตามเบอร์ติดต่อด้านล่างครับ

                 ชะมดหรืออีเห็น ที่นำมาเลี้ยงได้นั้น ต้องได้มาจากการเพาะพันธุ์อย่างถูกกฎหมาย และถึงแม้ว่าจะได้มาจากการอนุญาตอย่างถูกต้อง แต่พวกเขายังคงมีสัญชาตญาณของสัตว์ป่าอยู่มาก การนำมาขังในที่คับแคบ ย่อมนำมาซึ่งความเครียด

                 ในธรรมชาติ พวกเขากินพืช แมลง และสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กเป็นอาหารด้วย เมล็ดกาแฟ จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาหารที่เขาหากินเท่านั้น  การเลี้ยงโดยให้กินแต่เมล็ดกาแฟนั้น เป็นการทรมานพวกเขาอย่างมาก นำมาซึ่งภาวะขาดสารอาหาร เกิดโรคภัย และล้มตายไปในที่สุด ผู้เลี้ยงจึงต้องให้ความสำคัญ ต้องศึกษาและเข้าใจธรรมชาติของสัตว์ในวงศ์นี้ให้ดี ที่สำคัญมีความรับผิดชอบสูงด้วยครับ  ย้ำกันสักนิดว่า ธรรมชาตินั้นดูแลสัตว์ป่าได้ดีที่สุดครับ

                 การเพาะเลี้ยงหรือทำฟาร์มสัตว์ป่าบางชนิด จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล  ดังนั้น เมื่อสัตว์ป่าบางชนิด สามารถสร้างรายได้ให้กับท่านได้  การเลี้ยงด้วยความเข้าใจในธรรมชาติจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก  นอกจากนี้ ท่านจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดทุกกระบวนการด้วยครับ

สอบถามการขออนุญาตเพาะพันธุ์สัตว์ป่า :
ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
โทร. 0 2561 0777 ต่อ 1631 - 1632
ในวันและเวลาราชการ