จากข่าวการลดลงของอุณหภูมิทางตอนเหนือ และอีสานตอนบนเมื่อเช้านี้ ส่งกระแสนักท่องเที่ยวหลายท่าน ต่างให้ความสนใจกับการเกิดปรากฏการณ์ "น้ำค้างแข็ง" ขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งทางตอนเหนือและทางภาคอีกสานของไทย สร้างความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ที่ชอบไปสัมผัสอากาศหนาวในเทือกภูดอย คอยตื่นแต่เช้าเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้น รอลุ้นทะเลหมอก และยิ่งเย็นเยือก ยิ่งพอใจกับการได้เห็นเกล็ดน้ำค้างแข็ง
ทางเหนือเรียกกันว่า "เหมยขาบ" และมักเกิดบนยอดดอยสูง เช่น อินทนนท์ ดอยเชียงดาว ดอยอ่างขาง ดอยผ้าห่มปก เป็นต้น แต่ความจริงแล้ว เหมยขาบ ไม่ใช้ น้ำค้างแข็ง เพราะเหมยขาบจะเกิดขึ้นเมื่ออากาศชื้นใกล้ผิวดินมีอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 0 (ศูนย์)องศาเซลเซียส ไอน้ำในอากาศจะกลายเป็นน้ำแข็งทันทีโดยไม่กลั่นตัวเป็นหยดน้ำก่อน
เหมยขาบ เป็นภาษาไทยถิ่นเหนือเรียกละอองน้ำค้างที่กลายเป็นน้ำแข็งแผ่นบาง ๆ เกาะอยู่บนใบไม้ใบหญ้าในเวลาที่อากาศหนาวจัด ว่า น้ำค้างแข็ง. คำว่า เหมยขาบ ประกอบด้วยคำว่า เหมย ซึ่งแปลว่า น้ำค้าง กับคำว่า ขาบ แปลว่า ชิ้นเล็ก ๆ. เหมยขาบ คือน้ำค้างแข็งแผ่นบาง ๆ. ภาษาไทยถิ่นเหนือเรียกไอน้ำที่แข็งตัวเพราะความเย็นจัดว่า เหมยแขง. แต่ถ้าน้ำค้างที่ลงจัดจนเหมือนละอองฝน จะเรียกว่า เหมยช้าง (อ่านว่า เหฺมย-จ๊าง) คือน้ำค้างที่ลงหนักมากแข็งเป็นแผ่นใหญ่ เหมยขาบ ในภาษาถิ่นพายัพและภาษาถิ่นอีสานบางถิ่นเรียกว่า แม่คระนิ้ง (อ่านว่า แม่-คะ-นิ้ง) ปัจจุบันเรียกกันสั้นๆ แม่คะนิ้ง
เหมยขาบ นั้นเป็นคำที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่ากับคำว่า "แม่คะนิ้ง" เคยอ่านในหนังสือ "เพื่อความเข้าใจในแผ่นดิน จังหวัดเลย" ของสำนักพิมพ์สารคดีว่า เมืองเลยเป็นต้นคำ ของคำว่า "แม่คะนิ้ง" เพราะเลยเคยหนาวสุดในสยาม (ว่ากันว่าวัดอุณหภูมิในพื้นที่ราบ ไม่ใช่บนยอดภู) โดยมีอุณหภูมิต่ำสุด -0.3 องศาเซลเซียส ในเดือน มกราคม พ.ศ. 2517
ปรากฏการณ์การเกิด แม่คะนิ้งนั้น จะเกิดขึ้นบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นจัด มีอุณหภูมิถึงจุดเยือกแข็งตั้งแต่ 0 องศาเซลเซียสลงไป และมักจะเกิดในวันทีท้องฟ้าโปร่ง มีเมฆไม่มาก ทำให้รังสีความร้อนแผ่ขึ้นไปจากพื้นดินโดยไม่มีเมฆเป็นเพดานกั้นให้สะท้อนกลับลงมาที่พื้นดินอีกครั้ง สงผลให้บริเวณนั้นอุณหภูมิลดต่ำลงไปอีก ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือการที่ลมสงบ ทำให้อุณหภูมิเย็นคงที่ ไม่มีอากาศร้อนจากบริเวณใกล้เคียงเข้ามาคลุกเคล้า ทำให้น้ำค้างเปลี่ยนสถานะเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
ที่มา : http://oknation.nationtv.tv/
ข้อมูล : สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
ภาพ : สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่)
: สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า
: สำนักอุทยานแห่งชาติ