13 ก.ย.2562 วันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 4 จังหวัดตราด จะมาบอกให้เรารู้ว่า ทำไมเราจึงไม่ควรให้อาหารปลาในแนวปะการัง




                   การให้อาหารปลาในแนวปะการังนั้น จะทำให้เกิดผลเสียตามมาหลายด้าน เนื่องจากแนวปะการังเป็นระบบนิเวศที่อ่อนไหว มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสูงที่สุดในโลก ปลาเป็นสัตว์ที่มีบทบาทต่อระบบนิเวศ บางชนิดกินสาหร่าย ช่วยควบคุมให้ปริมาณสาหร่ายไม่มากเกินไป และทำให้แนวปะการังรักษาสมดุลอยู่ได้ ปลาในแนวปะการังเป็นสัตว์ที่มีที่อยู่อาศัยชัดเจน ปลาจะมีปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยมีวิถีธรรมชาติเป็นสิ่งควบคุมจำนวนปลา นอกจากนี้ปลาบางชนิดกินอาหารไม่เลือกและสามารถกินอาหารที่มนุษย์ให้ได้

                   อาหารที่มนุษย์ให้ปลาถือเป็นสิ่งแปลกปลอมในแนวปะการัง ปลาบางกลุ่มที่กินได้ จะได้เปรียบปลากลุ่มอื่นเพราะมีอาหาร ปลาที่กินอาหารมนุษย์จะมารวมตัวกันและมีปริมาณเพิ่มขึ้นเพราะมีอาหารกินไม่จำกัด จากนั้นจะยึดพื้นที่และขับไล่ปลาอื่นๆ ออกไป ปลาที่ถูกไข่ไล่ออกไป จะไม่มีที่อยู่ ไม่สามารถดำรงชีวิตในบริเวณอื่นได้ จึงค่อยๆ มีปริมาณลดน้อยลงจนหมดไป






 

                   เมื่อปลาส่วนใหญ่ที่คอยกินสาหร่ายหรือกินอาหารอื่นๆ ที่ควบคุมสมดุลในแนวปะการังหายไป เหลือแต่ปลากินขนมปัง ระบบนิเวศย่อมไม่เหมือนเดิม รวมทั้งปลาที่กินอาหารหลากหลาย เมื่อมีอาหารจากมนุษย์ที่เยอะและหาง่ายกว่า ปลาก็จะเปลี่ยนพฤติกรรม นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้ปะการังฟอกขาว และมีจำนวนลดน้อยลง หากขาดปลาที่คอยควบคุมสาหร่ายหรือระบบนิเวศ แนวปะการังยิ่งเสื่อมโทรม ดังนั้นหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราอาจะไม่มีปะการังเหลืออยู่อีกเลย

                   1.ทำลายกระบวนการทางธรรมชาติของระบบนิเวศ

                   การให้อาหารปลาจะทำให้ปลาเปลี่ยนพฤติกรรม โดยพวกมันจะเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงนักดำน้ำและเรือเข้ากับเวลาหากิน ทำให้มันเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากที่โดยปกติแล้วจะระมัดระวังภัยไม่เข้าใกล้มนุษย์ ก็เข้าหามนุษย์ที่เป็นผู้ให้อาหาร ซึ่งพฤติกรรมนี้นอกจากจะทำให้เกิดอันตรายต่อสัตว์เหล่านั้นแล้ว ยังส่งผลให้ความสัมพันธ์รัหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศเสียสมดุลและทำลายระบบนิเวศอีกด้วย




 

                   2.ทำร้ายสุขภาพปลา

                   เมื่อให้อาหารปลา ปลาจะหยุดวัฏจักรการหาอาหารกินตามธรรมชาติของมัน ซึ่งจะส่งผลให้ปลาขาดสารอาหารที่เหมาะสมตามธรรมชาติในการดำรงชีวิต เมื่อเวลาผ่านไปปลาที่ได้รับอาหารจากมนุษย์ ก็จะขาดสารอาหารและเกิดความเครียด จนตายในที่สุด

                   3.ทำอันตรายต่อมนุษย์

                   จากข่าวการจู่โจมและกัดผู้ที่ให้อาหารปลาหรือผู้คนต่างๆ เกิดขึ้นเนื่องจากสัตว์ทะเลเข้าใจผิด คิดว่ากิริยาบางอย่างเป็นการยื่นอาหารให้พวกมันกิน จึงทำให้มันไม่กลัวมนุษย์ รวมทั้งการให้อาหารสัตว์เหล่านั้น ทำให้พวกมันไม่ตื่นกลัวมนุษย์อีกต่อไป จนทำให้ทำอันตรายต่อมนุษย์ได้ ตัวอย่างเช่นปลาไหลมอร์เรย์ ที่ได้รับไส้กรอกเป็นอาหารจากนักดำน้ำจนเคยชิน จนกระทั่งวันหนึ่ง มันเกิดเข้าใจผิดคิดว่านิ้วของนักดำน้ำเป็นไส้กรอก จึงงับนิ้วของนักดำน้ำเข้าไปทั้งนิ้ว น่ากลัวไหมล่ะ!



 

                   4.ทำลายสิ่งแวดล้อม

                   การให้อาหารกับสัตว์ทะเลบางชนิดที่เป็นผู้ล่าในห่วงโซ่อาหาร เช่น ปลากะพง ฉลามขนาดเล็ก เป็นการทำลายกระบวนการรักษาสมดุลทางธรรมชาติ นอกจากนี้การให้อาหารสัตว์ทะเลส่งผลให้ดาวมงกุฎหนามเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างผิดปกติ ซึ่งดาวมงกุฏหนามนี่เองที่กินปะการังเป็นอาหาร ปกติแล้วไข่หรือตัวอ่อนของดาวมงกุฏหนามจะถูกผู้ล่ากินเข้าไป เมื่อผู้ล่าถูกให้อาหารทางอื่น ก็จะเป็นการเพิ่มอัตราการอดตายของตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของดาวมงกุฏหนาม ซึ่งนำไปสู่การที่ปะการังถูกทำลายมากขึ้น







อ้างอิง
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

https://travel.trueid.net/detail/ZqBRGJqWB4p
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=949674