อุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี (Budo - Su - Ngai Padi)


สถานที่ติดต่อ : อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี 67 ถ.พิพิธปาโจ  อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส 96170 
โทรศัพท์/โทรสาร : 0 7353  0406 
อีเมล : budo.sungaipadi@gmail.com 
Facebook : 
อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี Budo Su ngai Padi National Park

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายซามูดิง หะยีบือราเฮง
ตำแหน่ง : เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน


หมายเหตุ : เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้ว กรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว
ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ



213,125.00 ไร่

น้ำตกฉัตรวาริน

น้ำตกวังทอง

น้ำตกปาโจ

 


ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ⇔ เที่ยวน้ำตก ⇔ ชมพรรณไม้ ⇔ ดูนก/ดูผีเสื้อ ⇔ จักรยาน/จักรยานเสือภูเขา ⇔ ชมประวัติศาสตร์/วัฒนธรรม ⇔ ตั้งแคมป์พักแรม


ร้านค้าสวัสดิการ ( กาแฟ น้ำดื่ม ขนม )  เปิดให้บริการทุกวันเวลา      07.00 น.- 16.00 น.


บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ            AIS, TRUE-DTAC


ที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี
หน่วยพิทักษ์บด.1 (น้ำตกปาโจ)
หน่วยพิทักษ์บด.2 (น้ำตกฉัตรวาริน)


            สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นภูเขาดิน มียอดเขาตาเวเป็นยอดเขาสูงที่สุดประมาณ 1,182 เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวปนทราย หินเป็นหินอัคนี บางส่วนเป็นหินปูนและหินกรวดขนาดใหญ่ สภาพป่าจะทอดแนวทางเหนือไปสู่ทิศใต้ เป็นแหล่งน้ำต้นกำเนิดแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำสายบุรี คลองบาเจาะ มีพันธุ์ไม้ที่มีค่านานาชนิด โดยเฉพาะ ปาล์มบังสูรย์ นกเงือก และใบไม้สีทอง ซึ่งมีต้นไม้ประจำจังหวัด คือ ไม้ตะเคียนชันตาแมว มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่นน้ำตก ถ้ำ จุดชมวิว ตลอดจนมีประวัติศาสตร์ที่มีอดีต ความเป็นมาเรื่องราวเกี่ยวกับขบวนการของผู้ก่อการร้ายในนาม ขบวนการบูโด และขบวนการพูโล ซึ่งปัจจุบันเป็นดินแดนที่มหัศจรรย์หลงเหลือแต่ความงดงามของธรรมชาตินั้นคือ อุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี มีเนื้อประมาณ 341 ตารางกิโลเมตร หรือ 213,125 ไร่


            อุ
ทยานแห่งชาติบูโด – สุไหงปาดี มีสภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 2 ฤดู คือ ฤดูฝน ซึ่งมีฝนตกชุกระหว่างเดือน พฤษภาคม - ธันวาคม ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ประมาณเฉลี่ย 2,500 มิลลิเมตร/ปี และฤดูร้อนระหว่างเดือน มกราคม - เมษายน อุณหภูมิทั้ง 2 ฤดูประมาณ 19.2 36.2 องศาเซลเซียส


            สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบขึ้นปกคลุมเทือกเขาทั้งหมด มีไม้ขนาดใหญ่ เช่น ตะเคียน กาลอ ไข่เขียว สยา หลุมพอ นากบุด ตีนเป็ดแดง ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หวาย ปาล์ม ใบไม้สีทอง และมีพรรณไม้ที่หายากมีราคาแพงและกำลังจะสูญพันธุ์ คือ “หวายตะค้าทอง” และ “ปาล์มบังสูรย์ หรือลีแป” พบตามบริเวณป่าลึกบนภูเขาสูงและสันนิษฐานว่ามีอยู่แห่งเดียวในป่าบริเวณนี้ ใบไม้สีทอง หรือ ย่านดาโอ๊ะ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bauhnia aureifolia เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ มีลักษณะเด่นตรงที่มีใบสีทองและผิวใบนุ่มเนียราวกับกำมะหยี่ รูปร่างคล้ายกับใบกาหลงหรือชงโค แต่ขนาดใหญ่กว่า มีขอบหยักเข้าทั้งโคนใบและปลายใบ คล้ายใบรูปไข่สองใบเชื่อมติดกัน พบเห็นได้ทั่วไปในผืนป่าบูโด และบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 

            สัตว์ป่า ประกอบด้วย เก้ง กระจง เลียงผา บ่าง ลิง ค่างแว่นถิ่นใต้ นกอินทรี นกยางเขียว นกกระทา นกเปล้า นกหัวขวานแดง นกกางเขนดงหางแดง นกกางเขนดง นกเงือกปากดำ นกกาฝาก ไก่ป่า เป็นต้น

 
            รถยนต์ จากกรุงเทพฯถึงอำเภอบาเจาะ ระยะทางประมาณ 1,122 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 42 จากอำเภอบาเจาะ ถึงอุทยานแห่งชาติบูโดฯ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร 
            เครื่องบิน จากสนามบินบ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร 
            รถไฟ จากกรุงเทพฯ ถึงอำเภอสถานีรถไฟตันหยงมัส อำเภระแงะ และจากสถานีตันหยังมัส ประมาณ 30 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี 



ผังบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี



   

ที่พัก - บูโด 101 (ปาโจ 1) ปิดปรับปรุง
         - บูโด 102 (ปาโจ 2) ปิดปรับปรุง
         - บูโด 104 (ปูเกะ)
         - บูโด 105 (ปีแน)

** หมายเหตุ  :  เมื่อนักท่องเที่ยวจองบ้านพักมาเรียบร้อยแล้ว ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับกุญแจบ้านพักก่อนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว