
สถานที่ติดต่อ : 70 หมู่ 1 ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 58000
โทรศัพท์ : 064 814 0540 , 082 191 1746
โทรสาร : 053 659 392
อีเมล : npthumpla2552@gmail.com
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายเกียรติศักดิ์ วังวล
ตำแหน่ง : นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ


หมายเหตุ : เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้ว กรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว
ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ





394,120.00 ไร่




ชมพรรณไม้ ⇔ ดูนก/ดูผีเสื้อ ⇔ ดูดาว ⇔ ตั้งแคมป์พักแรม

ร้านค้าสวัสดิการ (น้ำดืม กาแฟ ขนม ) เปิดบริการทุกวันเวลา 08.00 น.- 16.30 น.

บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ AIS, TRUE-DTAC, MY BY CAT


ที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ
หน่วยพิทักษ์ฯที่ ถผ.1 (ถ้ำปลา)
หน่วยพิทักษ์ฯที่ ถผ.2 (ผาเสื่อ)
หน่วยพิทักษ์ฯที่ ถผ.3 (ห้วยส้าน)
หน่วยพิทักษ์ฯที่ ถผ.4 (ปางตอง)
หน่วยพิทักษ์ฯที่ ถผ.5 (โท้งหลวง)

เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนแนวเทือกเขาจะทอดยาวตามแนวเหนือใต้ มียอดเขาที่สำคัญได้แก่ ดอยลาน ดอยตองหมวก ดอยกิ่งกอม ดอยแหลม ดอยปางฮูง ดอยหน้าแข้งช้าง ฯลฯ ดอยลานเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1,918 เมตร จากระดับน้ำทะเลความสูงของพื้นที่ 300-1,900 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ความสูงเฉลี่ยประมาณ 500 เมตร จากระดับน้ำทะเล และอยู่ในเขตลุ่มน้ำหลักของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แก่ ลุ่มน้ำปาย แม่น้ำของ น้ำแม่สะงา และน้ำแม่สะงี

จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะภูมิอากาศแบบฝนเมืองร้อน เฉพาะฤดูกาลตามการจำแนกภูมิอากาศของ Koppen แบ่งได้เป็น 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดผ่านทะเล และมหาสมุทรทำให้อากาศชุ่มชื้น และมีฝนตกชุก โดยเฉพาะเดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบปี ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ได้รับอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยทำให้อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม เป็นเดือนที่เกิดหมอกมากที่สุดประมาณ 21-26 วัน ส่วนมากเกิดในตอนรุ่งเช้า ส่วนฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม จะมีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไป โดยเฉพาะเดือนเมษายน จะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี

ทรัพยากรป่าไม้
เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงทอดยาวจากเหนือจดใต้ ซึ่งมีอิทธิพลต่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อกระทบกับเทือกเขาขวางอยู่ ทำให้พื้นที่ได้รับปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีป่าหลากหลายชนิดเกิดขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ดังนั้น ความหลากหลายทางชีวภาพที่มีมากขึ้นตามไปด้วย และพื้นที่บางแห่งเคยเป็นโครงการทำไม้มาก่อน จึงทำให้สังคมพืชชั้นล่างเปลี่ยนไปบ้าง ชนิดของป่าที่พบในพื้นที่สามารถจำแนกชนิดป่าได้ 6 ประเภท ดังนี้
1. ป่าผสมผลัดใบ หรือป่าเบญจพรรณ (Mixed Deciduous Forest) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 30% พบบริเวณพื้นที่ราบเชิงเขา และที่ลาดชันตามไหล่เขา ตลอดจนบริเวณริมลำห้วยทางตอนเหนือ และตอนกลางของพื้นที่ จนถึงระดับความสูงประมาณ 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพดินค่อนข้างลึก-ปานกลาง ช่วงฤดูแล้งเกิดไฟป่าลุกลามไปตามพื้นดิน พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ทนไฟ โครงสร้างของป่าแบ่งเป็น 3 ชั้นเรือนยอด การสืบพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ชนิดไม้สำคัญได้แก่ ตะแบก ประดู่ มะค่าโมง แดง ไทร งิ้วป่า ฯลฯ เป็นต้นนอกจากนี้ยังพบไม้ไผ่ขึ้นเป็นจำนวนมาก
2. ป่าดงดิบ (Tropical Evergreen Forest) เป็นป่าประเภทไม่ผลัดใบ ส่วนใหญ่จะเป็นผืนป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 35% สภาพดินค่อนข้างลึก มีความชุ่มชื้นสูง โครงสร้างของป่าแบ่งออกเป็น 3 ชั้นเรือนยอด การสืบพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ความหนาแน่นของหมู่ไม้ ชนิดไม้สำคัญ ได้แก่ ยาง ประดู่ ตีนเป็ด ไม้จำพวกวงศ์ไม้ก่อ นอกจากนี้ตามพื้นล่างจะพบ หวาย ขิง ข่าป่า และเฟินมากมาย
3. ป่าเต็งรัง (Dry Dipterocarp Forest) เป็นป่าผลัดใบพบตามสันเขา และตามบริเวณที่ลาดชัน ที่ระดับความสูงประมาณ 300-900 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ครอบคลุมพื้นทีประมาณ 15% สภาพดินค่อนข้างตื้น มีก้อนหินโผล่ และกรวด-ลูกรังปน ช่วงฤดูแล้งเกิดไฟไหม้ป่า เป็นประจำทำให้พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่แคระแกรน โครงสร้างของป่ามีเพียง 2 ชั้น การสืบพันธุ์ตามธรรมชาติไม่ค่อยดีนัก ชนิดไม้สำคัญได้แก่ เต็ง รัง ตะแบกนา มะค่าแต้ ฯลฯ
4. ป่าสนเขา (Pine Forest) เป็นป่าที่พบในบริเวณพื้นที่ที่มีความสูงประมาณ 200-1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5% ลักษณะเป็นป่าโปร่ง มีทั้งสนสองใบ และ สนสามใบ และส่วนใหญ่จะขึ้นปะปนอยู่กับป่าเต็งรัง ไม้พื้นล่างส่วนใหญ่เป็นหญ้าคา
5. สวนป่า (Forest Planation) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10% ได้แก่ สวนป่าหมอกจำแป่-แม่สะงา, โครงการพระราชดำริปางตอง 1 (ห้วยมะเขือส้ม), โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง),โครงการปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งขวาตอนล่าง (1) และ (2) และสวนป่าห้วยผา พันธุ์ไม้ที่ใช้ในการปลูก ได้แก่ สัก สนสามใบ คูน เป็นต้น
6. ป่าเสื่อมโทรม (Distarbed Forest) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5% พื้นที่เหล่านี้ได้ถูกราษฎรเข้าบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตร แต่ปัจจุบันทางราชการได้ผลักดันออก และปัจจุบันราษฎรได้ปล่อยทิ้งร้างจนสภาพป่าเริ่มฟื้นคืนสภาพ คาดว่า ถ้าไม่มีการบุกรุกเพิ่มเติม หรือแผ้วถางป่าซ้ำ พื้นที่เหล่านี้จะกลับเป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ต่อไป
เนื่องจากพื้นที่มีป่าหลากหลายชนิด มีไม้มีค่าทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการอนุรักษ์ และรักษาทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ คือ อีกไม่นานสังคมพืชและสัตว์ในระบบนิเวศวิทยาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ทรัพยากรสัตว์ป่า
จากการสำรวจทรัพยากรสัตว์ป่า ข้อมูลส่วนใหญ่จากการพบสัตว์ป่าโดยตรง ประกอบกับการพบร่องรอยของสัตว์ ตลอดจนการสอบถามราษฎรที่อยู่โดยรอบพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อจะได้ทราบถึงชนิด ความชุกชุม และสถานภาพ ตลอดจนชีววิทยาบางประการ แยกออกได้ ดังนี้
1. นก จำนวน 123 ชนิด
2. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 30 ชนิด
3. สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก จำนวน 5 ชนิด
4. สัตว์เลื้อยคลาน จำนวน 30 ชนิด
5. ปลาน้ำจืด จำนวน 20 ชนิด
6. แมลง จำนวน 200 ชนิด

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่อยู่เขตภาคเหนือ แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย
การเดินทางไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถเดินทางได้ 2 วิธี คือ เครื่องบินและรถยนต์
เครื่องบิน สายการบินไทย “เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน” มีเที่ยวบินทั้งหมด 4 เที่ยวบิน แล้วเหมารถรับจ้างมายังพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งห่างจากตัวเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพียง 18 กิโลเมตร
รถยนต์ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน มาทางอำเภอฮอดเข้าอำเภอแม่สะเรียงผ่านอำเภอแม่ลาน้อย อำเภอขุนยวม เข้าไปยังอำเภอเมือง ระยะทางประมาณ 350 กิโลเมตรและโดยทางหลวงหมายเลข 108 อีกเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติฯ หรืออีกทางมาทางอำเภอแม่แตง ก่อนจะถึงอำเภอแม่แตงก็จะเลี้ยวซ้ายทางบ้านแม่มาลัย เข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 1095 ผ่านอำเภอปาย ก่อนจะถึงอำเภอเมือง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 192-193 ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ้ำปลา ซึ่งอยู่บริเวณริมเส้นทางดังกล่าวระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคล ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง


ผังบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ



