อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา (Mu Ko Lanta)


สถานที่ติดต่อ : 59 หมู่ที่ 5 บ้านแหลมโตนด ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ 81150 
โทรศัพท์ : 0 7565 6576

(สอบถามข้อมูลทั่วไปและการเปิดแหล่งท่องเที่ยวได้ที่หมายเลขนี้)
อีเมล : lantanationalpake@gmail.com
Facebook : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา - Mu Ko Lanta National Park
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายปราโมทย์ แก้วนาม
ตำแหน่ง : เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส

 

_________________________________________________________________________________

**กรณีชาวต่างชาติ หากเดินทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระค่าบริการพิเศษ

หมายเหตุ : เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้ว กรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว
ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ



83,750.00 ไร่

เกาะรอก

แหลมโตนด

เกาะไหง

ถ้ำเขาไม้แก้ว

เกาะห้า

กองหินม่วง,แดง

 

น้ำตกคลองจาก

 

 


ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ⇔ เที่ยวน้ำตก ⇔ เที่ยวถ้ำ/ศึกษาสภาพธรณี ⇔ ชมประวัติศาสตร์/วัฒนธรรม ⇔ ชมพรรณไม้ ⇔ ดูนก/ดูผีเสื้อ⇔ ดำผิวน้ำ ⇔ ดำน้ำลึก 

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มี 2 เส้นทาง

1.เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ผาเสม็ดแดง

     เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ผาเสม็ดแดง เป็นเส้นทางลักษณะวงกลม จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอยู่ห่างกัน มีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินศึกษาธรรมชาติ ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในเส้นทางนี้จะนำท่านขึ้นไปตามทางลาดชันของผาเสม็ดแดง ท่านจะได้พบเห็นและรับรู้เรื่องราวของป่าฝนเขตร้อน ป่าชายหาด และพรรณไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ท่านจะได้พบกับทิวทัศน์ที่สวยงามของท้องทะเลบนผาเสม็ดแดง เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ     
ผาเสม็ดแดง มีทั้งหมด 10 สถานี ดังนี้
    

-สถานีที่ 1 ปาล์มสารพัดประโยชน์ -สถานีที่ 6 พืชสายพันธุ์โบราณ
-สถานีที่ 2 เข็มทิศธรรมชาติ -สถานีที่ 7 ไม้เปลือกบาง แหล่งสมุนไพรและอาหาร
-สถานีที่ 3 สายโซ่ในระบบนิเวศ -สถานีที่ 8 พืชอิงอาศัย
-สถานีที่ 4 ดัชนีวัดมลพิษทางอากาศ -สถานีที่ 9 เตยในป่าชายหาด
-สถานีที่ 5 พรมสีเขียวบนพื้นป่า -สถานีที่ 10 อดีตกาลในชั้นหิน
2.เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มหัศจรรย์พันธุ์ไม้
     เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีระยะทาง 1.725 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ลักษณะเส้นทางเป็นรูปเกือกม้า ในเส้นทางนี้ท่านจะได้พบกับความสมบูรณ์ของป่าดิบชื้น และความมหัศจรรย์พันธุ์ไม้นานาชนิดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มหัศจรรย์พันธุ์ไม้ มีทั้งหมด 7 สถานี ดังนี้

-สถานีที่ 1 เถาวัลย์ -สถานีที่ 5 กฤษณา
-สถานีที่ 2 ตะแบก -สถานีที่ 6 ไลเคน
-สถานีที่ 3 ต้นตาว -สถานีที่ 7 จอมปลวก
-สถานีที่ 4 กำจัดต้น


ร้านค้าสวัสดิการ ( ร้านอาหาร)     แหลมตโนด เปิดให้บริการทุกวันเวลา 08.30 น.-16.30 น.
                                                เกาะรอก      เปิดให้บริการทุกวันเวลา 08.30 น. - 17.00 น.


1. ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา              AIS
2. เกาะรอก                                                        TRUE, TRUE-DTAC ได้เป็นบางจุด(รับสัญญาณได้แต่ไม่ค่อยดี)
3. เกาะตุกนลิมา หรือเกาะห้า                                AIS
4. เกาะไหง                                                         AIS, TRUE-DTAC
5. ถ้ำเขาไม้แก้ว                                                   AIS 


ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลต.1(เกาะรอก)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลต.2 (เกาะไหง)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลต.3 (คลองทราย)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลต.4 (
ถ้ำเขาไม้แก้ว)

 


            อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะ 25 เกาะ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเกาะรอก ประกอบด้วย เกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ซึ่งเกาะรอกในมีภูมิประเทศทั่วไปเป็นหินผาสูงชันมีโขดหินที่ถูกกัดกร่อนมาเป็นเวลานานอยู่ทางทิศเหนือ ด้านที่หันสู่ทิศตะวันตกเป็นหน้าผาทอดยาว ด้านหน้าของเกาะมีความยาวประมาณ 2.4 กิโลเมตร ยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 208 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนเกาะรอกนอกเป็นเกาะที่มีขนาดใกล้เคียงกับเกาะรอกใน ยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 156 เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณระหว่างช่องเขาจะมีที่ราบขนาดกว้างอยู่ 2 แห่ง คือ ช่องเขาหาดทะลุ และอ่าวม่านไทร สภาพธรณีของกลุ่มเกาะรอกอยู่ในยุคเพอร์เมียน-คาร์บอนิเฟอรัส มีช่วงอายุตั้งแต่ 345-230 ล้านปีมาแล้ว 
            กลุ่มเกาะห้า (เกาะตุกนลิมา) และเกาะหินแดง กลุ่มเกาะห้าประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 5 เกาะ มีที่ราบเล็กน้อยบนยอดเขาของเกาะที่มีพื้นที่มาก 2 เกาะ และอีก 3 เกาะที่เหลือมีลักษณะเหมือนหินโผล่พื้นน้ำ ไม่มีพื้นที่ราบ ลักษณะทางธรณีของกลุ่มเกาะนี้ เป็นหินปูนในหินชุดราชบุรีในยุคเพอร์เมียนช่วงล่าง-ช่วงกลาง มีช่วงอายุ 280-230 ล้านปี 
            กลุ่มเกาะไหง ประกอบด้วย เกาะไหง และเกาะม้า ด้านหน้าเกาะทางทิศตะวันออกของเกาะไหงประกอบด้วยหาดทรายยาวเหยียด ทิศใต้ลักษณะเป็นอ่าว ด้านตะวันตกตอนเหนือมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน ยอดเขาสูงที่สุด สูง 198 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับเกาะม้ามีลักษณะเหมือนหินโผล่พื้นน้ำ ไม่มีพื้นที่ราบ สภาพทางธรณีของกลุ่มเกาะนี้โดยรวมมีลักษณะเช่นเดียวกับกลุ่มเกาะรอก 
            กลุ่มเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยจำนวน 16 เกาะ ได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะตะละเบ็ง เกาะไม้งาม เป็นต้น ลักษณะภูมิประเทศของเกาะลันตาใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน และค่อนข้างลาดชัน ที่ราบปรากฏเฉพาะบริเวณชายหาดทางตอนใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่มีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงบริเวณตอนกลางของเกาะที่มีความลาดชันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 เมตร ไปจนถึงยอดเขาสูงที่สุดตอนกลางของพื้นที่ที่มีความสูง 488 เมตร สำหรับเกาะอื่นๆ มีสภาพเป็นโขดหินสูงชัน ไม่มีที่ราบปรากฏ ลักษณะธรณีของบริเวณเกาะไม้งาม เกาะไม้งามใต้ มีลักษณะเป็นตะกอนน้ำพา ตะกอนชะวากทะเล และตะกอนที่ลุ่มที่ราบชายเลน ในสมัยโฮโลซีน 
            สำหรับบริเวณเกาะร่าปูพัง เกาะลาปูเล และเกาะตะละเบ็ง มีลักษณะธรณีโดยรวมเช่นเดียวกับกลุ่มเกาะห้า และลักษณะธรณีของบริเวณเกาะลันตาใหญ่ก็เช่นเดียวกับกลุ่มเกาะรอก บนเกาะลันตาใหญ่มีลำธารน้ำไหลซึ่งมีน้ำไหลอยู่หลายแห่ง แต่มักขาดน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยมีลำธารเพียง 3 สาย ที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดปี ได้แก่ คลองจาก คลองน้ำจืด และคลองนิน

 
            จากสถานศึกษาข้อมูลสภาพภูมิอากาศ ของสถานีตรวจวัดอากาศที่อยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติ คือ สถานีตรวจวัดอากาศเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ พบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 28 องศาเซลเซียส โดยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ในเดือนมีนาคม และอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส ในเดือนธันวาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปีมากกว่า 2,100 มิลลิเมตร ในฤดูฝนเป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากจะทำให้ฝนตกหนักแล้ว ท้องทะเลยังมีคลื่นลมแรง ทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาในช่วงนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว จึงกำหนดปิด-เปิดฤดูการท่องเที่ยวประจำปี เฉพาะบริเวณหมู่เกาะรอก กองหินแดง และกองหินม่วง ดังนี้ 
                  ปิดฤดูการท่องเที่ยว  ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 15 พฤศจิกายน ของทุกปี 
                  เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 พฤษภาคม ของทุกปี 


ทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายของพรรณพืชมาก ซึ่งสามารถจำแนกออกได้ดังนี้ 
            ป่าดิบชื้น คิดเป็นเนื้อที่ 19.42 ตารางกิโลเมตร ปรากฏอยู่บริเวณเกาะลันตาใหญ่ ตลอดแนวเทือกเขาลันตา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของอาณาเขตของอุทยานแห่งชาติ ป่าดิบชื้นที่พบมีไม้ชั้นบน และไม้ชั้นกลางความสูงโดยเฉลี่ย 15-25 เมตร พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ เคี่ยมคะนอง ยางแดง ตะแบกนา ตะเคียนหิน เป็นต้น และมีพันธุ์ไม้จำพวกปาล์มและหวาย เป็นไม้พื้นล่างของป่า พันธุ์สำคัญที่พบ ได้แก่ กะพ้อ หวายขม หวายตะค้าทอง หวายงวย เป็นต้น 
            ป่าชายเลน พบบริเวณ เกาะไม้งาม เกาะไม้งามใต้ และเกาะงู เกาะเหล่านี้เป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก และมีสภาพเป็นป่าชายเลนทั้งเกาะ ไม้ส่วนใหญ่มีระดับความสูงที่ใกล้เคียงกันโดยมีความสูง 5 เมตร โดยเฉลี่ยพันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ แสมขาว โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ 
            ป่าชายหาด พบเป็นบริเวณไม่กว้างนัก ระหว่างรอยต่อของชายหาดกับป่าดิบชื้นของเกาะไหง พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ หูกวาง หยีทะเล ผักบุ้งทะเล และเตยทะเล เป็นต้น 

สัตว์ป่า แบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ คือ 
            จำพวกสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม มีจำนวน 20 วงศ์ 30 สกุล 38 ชนิดในจำนวนสัตว์ทั้ง 38 ชนิดนั้น มี 2 ชนิดได้หมดไปจากเกาะลันตาแล้ว คือ กวางป่า และเสือโคร่ง ส่วนอีกชนิดหนึ่งคือ พะยูน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน และอีก 2 ชนิดอยู่ในสถานะที่กำลังจะหมดไป คือ เก้ง และเสือปลา และสัตว์ที่หายากอีกชนิดหนึ่งคือ ค้างคาวมงกุฎหูโตมาร์แชล 
            นก มีทั้งสิ้น 58 วงศ์ 130 สกุล 185 ชนิด นกที่พบบ่อยอยู่ในอุทยานแห่งชาติ เช่น เหยี่ยวแดง นกนางนวลแกลบคิ้วขาว นกเขาเขียว เป็นต้น ส่วนนกที่พบเห็นได้ค่อนข้างยาก เช่น นกขุนแผนอกสีส้ม นกเดินดงสีเทาดำ และนกปลีกล้วยเล็ก เป็นต้น 
            สัตว์เลื้อยคลาน ชนิดที่พบได้ง่าย เช่น จิ้งจกหางแบน เหี้ย งูเหลือม และงูเห่าตะลาน เป็นต้น 
            สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก มีอยู่เพียง 2 ชนิด ชนิดที่พบเห็นได้ตามลำคลองทั่วไปคือ กบทูด และอึ่งน้ำเต้า ส่วนตามอาคารที่พักและตามแหล่งน้ำทั่วๆ ไปในป่าจะพบสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เช่น เขียดตะปาด และคางคกแคระ ชนิดที่หายากและพบได้น้อย คือ กบดอร์เรีย 
            ปลาน้ำจืดและปลาทะเล แหล่งน้ำจืดต่างๆ สามารถพบปลาน้ำจืด เช่น ปลาซิวใบไผ่เล็ก ปลาช่อนก้าง ปลาตะเพียนจุด เป็นต้น สำหรับปลาทะเลที่พบตามแนวปะการัง ชายฝั่งหาดหิน และปากคลองน้ำจืด เช่น ปลาโทง ปลาปากคม และปลาปักเป้าหนามทุเรียน เป็นต้น 
            สัตว์ในแนวปะการังปะการัง เช่น ปะการังลูกโป่ง ปะการังเขากวางขนาดใหญ่ ปะการังเห็ด ปะการังดอกไม้ ปะการังดาวใหญ่ เป็นต้น 


            
รถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์สู่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา(แหลมโตนด) มีระยะทางจากกรุงเทพถึงกระบี่ ประมาณ 850 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงกระบี่ไปตรัง ประมาณ กม.ที่ 64 เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 4206 ไปทางบ้านหัวหิน จากนั้นข้ามแพขนานยนต์ ไปเกาะลันตาน้อยและข้ามสะพานสิริลันตาเพื่อข้ามไปเกาะลันตาใหญ่ตามลำดับ เส้นทางบางช่วงสูงชันไม่เหมาะสำหรับรถเก๋ง 

หมายเหตุ : จุดจำหน่ายตั๋วแพขนานยนต์อยู่บริเวณก่อนถึงท่าเรือประมาณ 400 เมตร  โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ถึงเกาะลันตาน้อย  
ค่าตั๋วแพขนานยนต์ : รถยนต์ ราคา 100 บาท บุคคลภายนอก ราคา 10 บาท  เที่ยวเรือเวลา 06.00 น. - 22.00 น.  

          เรือ จากจังหวัดกระบี่เดินทางสู่เกาะลันตาโดยทางเรือ สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือต่างๆ ดังนี้ 
                  - ท่าเรือคลองจิหลาด อ.เมือง จ.กระบี่ ออกเวลา 11.00 น. ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 13.00 น. ค่าโดยสารประมาณ 350 บาท 
                  - ท่าเรืออ่าวต้นไทร(เกาะพีพี) ออกเวลา 08.00 น. ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 09.30 น. ค่าโดยสารประมาณ 300 บาท 
                  - ท่าเรือเกาะจำ (อ.เหนือคลอง) ออกเวลา 11.30 น. ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 12.15 น. ค่าโดยสารประมาณ 250 บาท 
                  - ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมือง ออกเวลา 10.30 น. ถึงเกาะลันตา เวลาประมาณ 12.45 น. ค่าโดยสารประมาณ 380 บาท 

            สำหรับการเดินทางสู่เกาะไหง เกาะห้า เกาะรอก และหินแดง-หินม่วง เมื่อไปถึงเกาะลันตาใหญ่แล้ว สามารถเช่าเรือเอกชนได้จากท่าเรือบ้านศาลาด่าน หรืออีกเส้นทางหนึ่งคือ จากหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง ส่วนการไปหินแดง-หินม่วง มีเรือที่ให้บริการดำน้ำลึกเท่านั้น 
            รถโดยสารประจำทาง 
การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดกระบี่ ขึ้นรถที่สายใต้ใหม่(บรมราชชนนี) มีรถของบริษัทขนส่ง บริษัทลิกไนท์ ทัวร์ เป็นต้น มีทั้งรถ ป.1 และ วีไอพี ราคา 614-920 บาท สอบถามราคารถโดยสารได้ที่บริษัท
1.จากจังหวัดกระบี่ สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาได้ดังนี้
- โดยสารรถตู้จากตัวเมืองกระบี่ไปเกาะลันตา ราคาประมาณ 200 บาท ถึงท่าเรือหัวหิน รถลงแพขนานยนต์ไปเกาะลันตาใหญ่ จากนั้นเช่ารถรับจ้างไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หรือจ้างเหมา/เช่าเรือจากศาลาด่านไปยังเกาะรอกหรือเกาะอื่นๆ ตามต้องการ
2. จากจังหวัดตรังหรืออำเภอห้วยยอด โดยสารรถตู้จากตัวเมืองตรังไปเกาะลันตา ราคาประมาณ 200 บาทรถโดยสารประจำทาง
การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาจังหวัดกระบี่ ขึ้นรถที่สายใต้ใหม่(บรมราชชนนี) มีรถของบริษัทขนส่ง บริษัทลิกไนท์ ทัวร์ เป็นต้น มีทั้งรถ ป.1 และ วีไอพี ราคา 614-920 บาท สอบถามราคารถโดยสารได้ที่บริษัท
1.จากจังหวัดกระบี่ สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาได้ดังนี้
- โดยสารรถตู้จากตัวเมืองกระบี่ไปเกาะลันตา ราคาประมาณ 200 บาท ถึงท่าเรือหัวหิน รถลงแพขนานยนต์ไปเกาะลันตาใหญ่ จากนั้นเช่ารถรับจ้างไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หรือจ้างเหมา/เช่าเรือจากศาลาด่านไปยังเกาะรอกหรือเกาะอื่นๆ ตามต้องการ
2. จากจังหวัดตรังหรืออำเภอห้วยยอด โดยสารรถตู้จากเมืองตรังไปเกาะลันตา ราคาประมาณ 200 บาท ถึงท่าเรือหัวหิน รถลงแพขนานยนต์ไปเกาะลันตาใหญ่ จากนั้นเช่ารถรับจ้างไปยังแหลมโตนด หรือโดยสารรถตู้/เช่ารถรับจ้างไปยังท่าเรือบ้านปากเม็ง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง แล้วจ้างเหมา/เช่าเรือ หรือโดยสารเรือไปยังเกาะไหง เกาะรอก หรือเกาะลันตาใหญ่ ก็ได้เช่นกัน 


 


ผังบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา


ผังบริเวณเกาะรอกนอก ที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ลต.1 (เกาะรอก) ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

ที่พัก - ลันตา 202/1 (ชาปีไหน)
           ลันตา 202/2 (ชาปีไหน)
           ลันตา 203/1 (บินหลา)
           ลันตา 203/2 (บินหลา)
           ลันตา 204/1 (กระรอก)
           ลันตา 204/2 (กระรอก)
           ลันตา 205/1 (ปูไข่)
           ลันตา 205/2 (ปูไข่)
           ลันตา 206/1 (เม่นทะเล) ปิดปรับปรุง
           ลันตา 206/2 (เม่นทะเล) ปิดปรับปรุง


** หมายเหตุ  :  เมื่อนักท่องเที่ยวจองบ้านพักมาเรียบร้อยแล้ว ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับกุญแจบ้านพักก่อนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว