อุทยานแห่งชาติภูเก้า - ภูพานคำ (Phu Kao - Phu Phan Kham)


สถานที่ติดต่อ : หมู่ที่ 6 ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู 39140 หรือ ตู้ ปณ.2 ปทจ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น 40250
โทรศัพท์ : 063 648 4821
อีเมล : phukao.np50@gmail.com

Facebook : อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ Phu Kao Phu Phan Kham National Park
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายโกสิน ชาญสุข
ตำแหน่ง : นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ


หมายเหตุ : เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้ว กรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว
ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ



198,973.00 ไร่

ผาหินฝ่ามือแดง

เสาหินหามต่าง

อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์

จุดชมทิวทัศน์หอสวรรค์

น้ำตกตาดหินแตก

น้ำตกตาดโตน

แหลมสำราญ

จุดชมทิวทัศน์ช่องเขาขาด

าหินเรขาคณิต

ผาหินมะลึกคึกคัก

รอยเท้าไดโนเสาร์

พิพิธภัณฑ์แหล่งซากดึกดำบรรพ์

น้ำตกตาดฟ้า

สุสานหอยหิน

ถ้ำมึ้ม

ถ้ำน้ำลอด

รอยเท้านายพราน

ถ้ำสามตา

 


ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ⇔ ทางเดินป่า ⇔ เที่ยวน้ำตก ⇔ ชมพรรณไม้ ⇔ ดูนก/ดูผีเสื้อ ⇔ ดูดาว ⇔ ตั้งแคมป์พักแรม  


ร้านค้าสวัสดิการ (กาแฟ น้ำดื่ม ขนม ) เปิดบริการทุกวันเวลา   09.00 น.- 16.00 น.


1. ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ                                      AIS, TRUE-DTAC
2. พื้นที่บริการนักท่องเที่ยว(โซนภูพานคำ)                 AIS, TRUE-DTAC
3. แหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ (โซนภูเก้า )         AIS


ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 1 (วังมน)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 2 (นามะเฟือง)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 3 (โนนตาล)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 4 (หนองแสง)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 5 (ถ้ำกกดู่)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 6 (ปางกู่)
ด่านตรวจชั่วคราว (ตาดโตน)
ด่านตรวจชั่วคราว (ตาดไฮ)
ด่านตรวจชั่วคราว (ภูวัด)
ด่านตรวจชั่วคราว (โนนหัวช้าง)


            เทือกเขาภูเก้าเป็นภูเขาหินทราย ซึ่งมีชั้นของหินทรายอยู่ด้านบนระดับผิวดิน โดยมีชั้นของหินดินดานปนหินทรายเป็นพื้นฐานด้านล่าง มีดินประเภท ดินลูกรัง และดินร่วนปนทราย (Sandy Loam) กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีลักษณะเป็นเทือกเขาสองชั้น ชั้นนอกเป็นภูเขาสูงลาดชันมาก ขณะที่ไหล่เขาด้านในไม่ชันมากนัก ส่วนภูพานคำเป็นแนวทิวเขายาวต่อเนื่องกัน ของเทือกเขาภูพาน เรียงตัวกันตามแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ตะวันตกเฉียงใต้ มีความลาดชันสูงในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ(ในเขตจังหวัดอุดรธานี) และลาดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความชันต่ำกว่า(ในเขตจังหวัดขอนแก่น) มีลักษณะคล้ายช้อน บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นอ่างที่ราบต่ำลุ่มน้ำพอง ซึ่งกลายเป็นทะเลสาบหลังสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ และเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ


            ฤดูกาลของอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยจะร้อนจัดในเดือนเมษายน ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนจะตกมากช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์ 
            - อุณหภูมิ สูงสุด 41 องศาเซลเซียส (ช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน ของทุกปี)
            - อุณหภูมิ ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส (ช่วงเดือน ธันวาคม – มกราคม ของทุกปี) 
            - จำนวนปริมาณน้ำฝน ประมาณปีละ 1,295.5 ลูกบาศก์มิลิเมตร 
            ลักษณะภูมิอากาศที่ผิดปกติ สภาพการแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ ทำให้เกิดผลกระทบทั้งทางกายภาพและชีวภาพของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ แต่ไม่ปรากฏภัยธรรมชาติร้ายแรง ยกเว้นพายุตอนต้นและตอนปลายฤดูฝน ทำให้มีกระแสลมแรง กระแสคลื่นในทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์มีความสูงสันคลื่น ประมาณ 30 เซนติเมตร (เป็นอันตรายต่อเรือขนาดเล็ก) หากฝนตกหนักติดต่อกัน อาจมีน้ำไหลบ่า การระบายน้ำในบางพื้นที่ช้า โดยเฉพาะบริเวณถนนถูกน้ำชะ กัดเซาะ ไหล่บ่าไปตามถนน ทำให้เส้นทางการเดินทางยากลำบากมากโดยเฉพาะเส้นทางลูกรังทั้งส่วนภูเก้า และส่วนภูพานคำ อีกประการหนึ่งคือ หินทรายขนาดใหญ่ พังถล่ม (ช่วงถนนช่องเขาขาดหน้าที่ทำการฯ) ทำให้เกิดการแตก ชำรุด อุดตัน ทางระบายน้ำ ริมถนน 


            
พันธุ์พืชในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ สามารถจำแนกประเภทสังคมพืชออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 
            1.) ป่าดงดิบแล้ง ( Dry Evergreen Forest ) ป่าประเภทนี้จัดเป็นป่าประเภทที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ มีอยู่บริเวณริมฝั่งห้วยและริมฝั่งลำธาร ไหล่เขา และ หุบเขาบางบริเวณ ที่ราบต่ำระหว่างภูขอบด้านนอกและภูขอบด้านในทางทิศเหนือของส่วนภูเก้า ระหว่าง บริเวณเหนือหมู่บ้านวังมนและภูขอบด้านใน บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้านดงบากไปทางวัดพระพุทธบาทภูเก้า ส่วนภูพานคำ มีป่าดงดิบแล้งบริเวณต้นน้ำลำห้วยคุมมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของสาวนภูพานคำ ป่าประเภทดงดิบแล้งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ : ตะแบก ตะเคียนหิน ยาง มะค่าโมง กระบาก เขล็ง และ เถาวัลย์หลายชนิด 
            2.) ป่าเบญจพรรณ ( Mixed Deciduous Forest ) มีอยู่บริเวณที่แห้งแล้งกว่าป่าดงดิบแล้ง แต่ชุ่มชื้นกว่าป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณที่มีปรากฏอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ คือ บริเวณที่ราบภายในวงเขาขอบใน ของส่วนภูเก้าและบริเวณที่ราบไหล่เขาช่องภูเมย และ ขอบภูด้านนอก โดยเฉพาะบริเวณทิศเหนือของภูขอบ บริเวณลาดไหล่เขาใกล้วัดพระพุทธบาทภูเก้า สำหรับส่วนภูพานคำ จะพบป่าเบญจพรรณนี้เป็นบริเวณหย่อมเล็กๆ บริเวณที่มีความลาดชันน้อยด้านจังหวัดขอนแก่น มีเนื้อที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ : แดง ประดู่ มะค่าโมง มะค่าแต้ กระบก ตะคร้อ ตีนนก ยอป่า งิ้วป่า และไม้พื้นป่าประกอบด้วย ไผ่ไร่ หญ้าคา เป็นต้น 
            3.) ป่าเต็งรัง(Dry Dipterocarpus Forest) ป่าประเภทนี้ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในพื้นที่ทั้งหมดของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ โดย มีเนื้อที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เกิดขึ้นโดยทั่วไปโดยเฉพาะในที่ลาดเขา ที่มีหินทรายโผล่พ้นผิวดินและในที่ราบซึ่งมีความชุ่มชื้นน้อย บริเวณที่พบว่าเป็นป่าเต็งรังเป็นบริเวณกว้าง ได้แก่ พื้นที่ภูเขาของภูขอบด้านนอก และบริเวณสันเขาภูพานคำ 
ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ :เหียง พลวง พะยอม กระโดน กว้าว ส้มกบ มะกอก มะขามป้อม และไม้พื้นป่า ประกอบด้วย ปรงป่า หญ้าเพ็ก เป้ง ลาน เถาวัลย์หลายชนิด และพุ่มไม้หนามบางพันธุ์รวมทั้ง ผักหวาน 

            สำหรับสัตว์ป่า ตามสภาพที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน มีพันธุ์สัตว์ที่หลงเหลืออาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำน้อยมาก เนื่องจากสาเหตุที่สำคัญ 2 ประการคือ 
                  * การทำลาย หรือ ล่าสัตว์ 
                  * การทำลายถิ่น/แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ 
เท่าที่หลงเหลืออยู่ ปรากฏร่องรอยของสัตว์ และคำบอกเล่าว่าพันธุ์สัตว์ที่เคยมีปรากฏอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ มีดังนี้ 

            1.) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วย : หมูป่า อีเห็นหลายชนิด ชะมดหลายชนิด กระรอก กระแตหลายชนิด หนูป่าหลายชนิด เก้งกระต่ายป่า ตุ่น บ่าง ลิงลม 
            2.) นก ประกอบด้วย : ไก่ป่า นกยูง นกแก้ว นกแขกเต้า นกเขาหลายชนิด นกแซงแซวหลายชนิด นกตะขาบดง นกเค้าป่า นกเอี้ยงสาริกา นกหัวขวานหลายชนิด เหยี่ยวหลายชนิด นกเป็ดแด นกเป็ดคับแค นกยางเปีย 
            3.) สัตว์เลื้อยคลาน ประกอบด้วย : เต่าหก เต่าเหลือง กิ้งก่าหลายชนิด ตุ๊กแกหลายชนิด จิ้งเหลนหลายชนิด จิ้งจกหลายชนิด และงูหลายชนิดทั้งมีพิษและไม่มีพิษ 
            4.) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ประกอบด้วย : กบ เขียด ปาด คางคก อึ่งอ่าง 
            5.) ปลา อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ มีพื้นที่ส่วนน้ำทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ ประมาณ 85 ตารางกิโลเมตร หรือ 53,125 ไร่ และตามลำห้วยลำธารทั้งส่วนภูเก้า - และส่วนภูพานคำประกอบด้วย :พันธุ์ปลาที่เกิดขึ้นทั้งตามธรรมชาติและการเพาะเลี้ยง 


            จาก จังหวัดขอนแก่นไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น - อุดรธานี) ถึงบ้านคำแก่นคูณเลี้ยวซ้ายไปเขื่อนอุบลรัตน์ตามแนวทางหลวงหมายเลข 2109 ถึง อ.อุบลรัตน์ แยกไปทางขวาตามทางหลวงหมายเลข 2146 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ รวมระยะทาง 63 กิโลเมตร 
            จาก จังหวัดหนองบัวลำภูเลี้ยวซ้ายที่บ้านวังหมื่น ไปตามทางหลวงหมายเลข 2146 (หนองบัวลำภู – อำเภออุบลรัตน์) แยกซ้ายที่บ้านโสกจาน ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ รวมระยะทาง 57 กิโลเมตร 



ผังบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

ที่พัก - ภูเก้า 101 (กุหลาบหิน)

** หมายเหตุ  :  เมื่อนักท่องเที่ยวจองบ้านพักมาเรียบร้อยแล้ว ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับกุญแจบ้านพักที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว