อุทยานแห่งชาติเจ็ดคด - โป่งก้อนเส้า (เตรียมการ)


สถานที่ติดต่อ : หมุ่ที่ 5 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
โทรศัพท์ :  080 019 2762
อีเมล : jedkod.np@gmail.com
Facebook : อุทยานแห่งชาติเจ็ดคด - โป่งก้อนเส้า Chet kot-Pong Kon Sao National Park
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ : นายวชร สุรเชษฐพงษ์
ตำแหน่ง : นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ



           
23,277 ไร่

อ่างเก็บน้ำซับป่าว่าน

น้ำตกเจ็ดคดใหญ่

จุดชมวิวผานางอาย

น้ำตกเจ็ดคดใต้

น้ำตกหินดาด

น้ำตกเจ็ดคดเหนือ

น้ำตกคลองผักหนาม

 

ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ⇔ ทางเดินป่า ⇔ เที่ยวน้ำตก ⇔  ชมพรรณไม้ ⇔ ดูนก/ดูผีเสื้อ ⇔ จักรยาน/จักรยานเสื้อภูเขา ⇔ตั้งแคมป์พักแรม

ร้านค้าสวัสดิการ (ร้านอาหาร) เปิดให้บริการ วันเสาร์ - วันอาทิตย์  08.00 น. - 17.00 น.


 1. บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ                    AIS , TRUE

 2. บริเวณจุดลงทะเบียนนักท่องเที่ยว                 สัญญาณ WIFi


 



            มีลักษณะส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน พื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 100 - 600 เมตร พื้นที่ด้านทิศเหนือ เป็นภูเขาสูงชัน มีความลาดชันสูง บางส่วนเป็นพื้นที่เขาหินปูน มีเขาสะบ้าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 616 เมตร ทางตอนกลางของพื้นที่เป็นภูเขาลาดชันระดับต่ำ มีลำห้วยเจ็ดคดไหลผ่าน มียอดเขาไม้นกเขาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 601 เมตร ทางทิศตะวันออกของพื้นที่เป็นพื้นที่เขาสูงชัน ทิศด้านลาดส่วนใหญ่ไปทางทิศตะวันออกมีลำห้วยมวกเหล็กในไหลผ่านพื้นที่ ทางด้านทิศใต้เป็นภูเขาสูงชันสลับกับที่ราบเชิงเขา และภูเขาระดับต่ำมีลำห้วยกระจายทั่วพื้นที่ มีลำห้วยเจ็ดคดเป็นลำห้วยสำคัญ มีน้ำไหลในลำห้วยในช่วงฤดูฝน ส่วนในฤดูแล้ง ปริมาณน้ำจะน้อยและขาดตอนเป็นระยะๆ


            แบ่งออกเป็น 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยไม่ต่างกันมากนัก ประมาณ 34 องศาเซลเซียส และต่ำสุดประมาณ 22 องศาเซลเซียส
          1) ฤดูร้อนจะเริ่มเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนพฤษภาคม อากาศร้อนสุดในเดือนเมษายน
          2) ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม เกิดจากการได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดผ่านอ่าวไทยเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง
          3) ฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมเย็นที่พัดมาจากทางตอนกลางของประเทศจีนมีอากาศค่อนข้างเย็นถึงหนาวเล็กน้อย

 

           ในพื้นที่มีป่าหลากหลายประเภท อันเนื่องมาจากสภาพของพื้นที่ ความลาดชัน และปริมาณความชื้นของแต่ละพื้นที่ จึงสามารถพบป่าทั้งประเภทป่าผลัดใบ (Deciduous Forest) และป่าไม่ผลัดใบ (Evergreen Forest) พื้นที่บางส่วนเป็นแปลงปลูกป่า เพื่อการฟื้นฟูสภาพของพื้นที่ ซึ่งแบ่งเป็นป่าชนิดต่างๆ ได้ดังนี้

          1) ป่าเบญจพรรณ (Mixed Deciduous Forest) จัดอยู่ในประเภทป่าผลัดใบมีลักษณะโครงสร้างเป็นป่าโปร่งประกอบด้วยต้นไม้ขนาดกลางเป็นส่วนมากพื้นป่าไม่รกทึบและมีไผ่ชนิดต่างๆขึ้นผสมในฤดูแล้ง ต้นไม้ส่วนใหญ่จะผลัดใบป่าชนิดนี้พบที่บริเวณทางตอนเหนือของพื้นที่พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ สมพง มะค่าโมง ตะแบกนา ชิงชัน ส้านหิ่ง กำจัดต้น ประดู่และเขลง เป็นต้น

          2) ป่าดิบชื้น (Tropical Rain Forest) จัดอยู่ในประเภทป่าไม่ผลัดใบมีลักษณะโครงสร้างเป็นป่ารกทึบประกอบด้วยพันธุ์ไม้มากมายหลายชนิด ต้นไม้ชั้นบนส่วนใหญ่เป็นไม้วงศ์ยาง (Dipterocarpaceae) มีลำต้นสูง 30 - 40 เมตร ไม้พื้นล่างประกอบด้วนพันธุ์ไม้พวกปาล์มและหวาย ป่าชนิดนี้พบทางด้านตะวันออกของพื้นที่ในบริเวณหุบห้วย พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ยางนา ยางแดง เคี่ยมคะนอง สะตอป่า ปออีเก้ง เลือดแรด และตะเคียนทอง ลำดวน เป็นต้น

           3) ป่าดิบแล้ง (Dry Evergreen Forest) จัดอยู่ในประเภทป่าไม่ผลัดใบมีลักษณะโครงสร้างคล้าย
ป่าดิบชื้น แต่จะโปร่งกว่าบางครั้งมีชนิดพันธุ์ไม้ที่ผลัดใบขึ้นผสม ป่าชนิดนี้พบบริเวณด้านตะวันออกของพื้นที่ เป็นชนิดป่าที่พบมากที่สุด พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ยางนา กระท้อนป่า สัตบรรณ กระบก คอแลน มะไฟ ข่อยหนาม กระเบากลัก กระหนานปลิง และตะแบกใหญ่ สำหรับไม้พื้นที่ล่างจะพบมากในวงศ์ขิงข่า(Zingiberaceae)
ที่มีคุณค่าทางสมุนไพรเช่น กระเจียว กระชาย เร่ว กระทือ เปราะ ฯลฯ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ซับป่าว่าน”
ที่ชาวบ้านเรียกขานพื้นที่บริเวณศูนย์ฝึกอบรมที่ ๖ เจ็ดคด – โป่งก้อนเส้า

         4) ป่าหญ้าและป่ารุ่นหรือป่าเหล่า (Savanna Forest) เป็นป่าที่เกิดซึ่งภายหลังจากป่าธรรมชาติ ถูกบุกรุกทำลายจนดินมีสภาพเสื่อมโทรม และมักเกิดไฟป่าในฤดูแล้ง ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถขึ้นหรือเจริญเติบโตสู้กับไฟป่าได้ แต่ถ้าสามารถควบคุมไฟป่าได้ก็จะเริ่มมีพันธุ์ไม้เบิกนำที่ทนทานต่อไฟป่า เช่น ถ่อนและงิ้วป่า ขึ้นมาทดแทน ป่าชนิดนี้พบในบริเวณที่ไร่ร้างเก่าประโยชน์ ป่าชนิดนี้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กวาง เก้ง กระทิง กระจง และกระต่ายป่า เป็นต้น

การเดินทาง : รถยนต์ จากกรุงเทพมุ่งหน้าตรงมายังสระบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกขวาไปทางจังหวัดนครราชสีมา (ถนนมิตรภาพ) ประมาณ 20 กิโลเมตร กลับรถหน้าเทศบาลทับกวาง อีก 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงตลาดกวางทองเข้าไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อมุ่งหน้ามาอุทยานแห่งชาติเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า

รถขนส่งสาธารณะ นั่งรถโดยสารสายกรุงเทพ - นครราชสีมา ผ่านเมืองสระบุรี ลงรถที่หน้าวัดทับกวางหรือศูนย์โยเร ข้ามสะพานลอยมาฝั่งขวามือ เพื่อนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร