พิกัดที่ทำการฯ : 17.48593711 , 101.77392481
หัวหน้าวนอุทยาน : นายกิตติวัฒน์ เทียมเพ็ง
ตำแหน่ง : นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ
โทรศัพท์ : 081-849-0226
4,098 ไร่
พิกัด 17.4860064044926 , 101.75662982729 พิกัด 17.4860612291711 , 101.756583602319
พิกัด 17.4857777814764 , 101.755534786436
ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ⇔ เที่ยวถ้ำ/ศึกษาสถาพธรณี
ความเป็นมาของวนอุทยานภูบ่อบิด
วนอุทยานภูบ่อบิด “ภูบักบิด”หรือ ภูบ่บิด เป็นภูเขาเล็กๆ ห่างจากตัวจังหวัดเลยไม่มากนัก เป็นภูเขาซึ่งอยู่เหนือฟากฝั่งของแม่น้ำเลย โดยมีตัวเมืองเลยอยู่ฟากฝั่งตรงกันข้าม หลวงปู่หลุย จันทสาโร (พรรษาที่ 32) ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติภาวนาที่ "ภูบักบิด” ชื่อ "ภูบักบิด” นี้มีที่มาของชื่อค่อนข้าพิสดารอยู่ กล่าวคือ บนยอดภูแห่งนี้มีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง เป็นถ้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์น่าอัศจรรย์ยิ่ง เนื่องจากเป็นอาณาเขตของพวก "บังบด” หรือภุมเทวดาสถิตอยู่ ลักษณะของถ้ำบน "ภูบักบิด” นี้ ปากถ้ำค่อนข้างเล็กแคบ แต่เมื่อผ่านปากถ้ำเข้าไปแล้ว ภายในกลับกว้างขวางเวิ้งว้าง ผนังถ้ำเป็นรู เป็นซอกหลืบมากมาย อีกทั้งยังมีโพรงลึกอยู่โพรงหนึ่ง ชาวบ้านเรียกขานกันว่าเป็นโพรงของพญานาค หากใครนำเอามะพร้าวมาทิ้งลงในโพรงนี้ มะพร้าวจะไปโผล่ที่กุดป่องอย่างน่าอัศจรรย์ ที่เป็นเช่นนี้แสดงว่า ลึกล้ำจากปากโพรงลงไป คงจะมีสายธารน้ำไหลอยู่ใต้แผ่นดิน และ สายธรน้ำไหลนี้ ย่อมซอกแซกทอดยาวไปทะลุถึงกุดป่องได้
เมื่อกาลก่อนนั้น เล่ากันว่า ภายในถ้ำมีสมบัติมีค่ามากมายมหาศาลของเทวดา ผู้มีศีลธรรม มีจิตบริสุทธิ์ยิ่ง สมบัติดังกล่าวเป็นเครื่องประดับล้ำค่าของโบราณ ประกอบด้วยแก้วแหวนเงินทอง สร้อยคอ สร้อยข้อมือ สร้อยสายสะพาย ปะวะหล่ำ กำไลแขน กำไลมือ สายสังวาล และเข็มขัดทอง เข็มขัดนาก เครื่องประดับเหล่านี้วางกองอยู่บนแท่นหินในถ้ำ นอกจากเครื่องประดับล้ำค่าเหล่านี้แล้ว ยังมีพระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปนาก และพระพุทธรูปเงินขนาดต่างๆ วางไว้บนชั้นหินหลายระดับ แสดงให้เห็นว่าผู้เป็นเจ้าของสมบัติซึ่งเป็นคนโบราณ เป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับนำทองคำ นาก และเงินมาหล่อเป็นพระพุทธรูปเพื่อกราบไหว้บูชา ชาวบ้านที่อยู่เชิงเขา “ภูบักบิด” ในสมัยก่อน มีสิทธิ์ขึ้นไปยืมเครื่องประดับมาแต่งกาย และนำพระพุทธรูปมาเคารพบูชาในงานบุญต่างๆ ได้เป็นการชั่วคราว เมื่อเสร็จงานบุญแล้วก็จะนำเครื่องประดับและพระพุทธรูปไปคืนไว้ในถ้ำตามเดิม ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันตรุษ สงกรานต์ วันสารท หรือวันที่มีงานบุญ งานมงคลต่างๆ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานบวช งานโกนจุก และงานแต่งงาน ชาวบ้านทั้งหญิงและชายจะมีเครื่องประดับของมีค่าใส่กันแพรวพราว เวลาจะเข้าไปเอาเครื่องประดับในถ้ำศักดิ์สิทธิ์บนภูบักบิดนี้ มีกฎอยู่ 2 ประการคือข้อแรก ผู้ที่จะเข้าไปเอาต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด แล้วเดินตัวเปล่าๆ เข้าไป เหตุที่ต้องทำเช่นนั้น คงถือเอาความบริสุทธิ์ของใจเป็นสำคัญ คือจะไม่เอาเครื่องประดับชิ้นหนึ่งชิ้นใดซุกซ่อนไว้ในเสื้อผ้าที่ใส่ กฎข้อนี้ต้องกระทำเหมือนกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย เด็ก หรือคนชรา ข้อต่อมา คือ ให้หยิบเครื่องประดับไปได้แค่หนึ่งกำมือเท่านั้น จะเอามากไปกว่านี้ไม่ได้ ผู้คนในสมัยก่อนเป็นคนมีศีลมีธรรมประจำใจ ไม่มีความละโมบโลภมาก เมื่อหยิบยืมเครื่องประดับไปใช้สมประสงค์แล้วก็จะรีบนำมาคืนไว้ที่เดิม เพราะถือว่าเป็นของกลาง ไม่ใช่สมบัติของตนหรือของใครทั้งสิ้น
ต่อมา มีบางคนเกิดความโลภ อยากได้เครื่องประดับของมีค่ามาเป็นของตน เข้าไปยืมเครื่องประดับในถ้ำแล้วก็ไม่ยอมนำไปคืน ยักยอกทุจริตเก็บไว้เป็นสมบัติของตนเสียดื้อๆ การกระทำเช่นนี้จึงเท่ากับจงใจเจตนาผิดศีลข้ออทินนาทาน คือ ลักขโมยทรัพย์ของผู้อื่น เครื่องประดับจำนวนมากมายก็ลดน้อยลงไปเรื่อย อีกทั้งทองคำอันสุกปลั่งวาววับเริ่มหมองคล้ำดำลงไปคล้ายกับทองเหลือง ความวิบัติได้เกิดขึ้นจนส่วนที่เก็บสมบัติไว้ปิดลง เนื่องจากในเวลาต่อมากลุ่มคนหนุ่มสาวที่เข้าไปยืมของไม่สำรวม ไปหยอกเอินหยิกสะโพกกันเป็นที่สนุก ภูเขาจึงถล่มลงมาปิดปากถ้ำทับคนตาย รอดมาได้แต่สามเณรน้อยรูปหนึ่งซึ่งบอกว่ามุดมาตามรู(ป่อง) ท่านบอกว่ามีรูใหญ่อยู่รูหนึ่งจึงลอดออกมา เอามะนาวในย่ามทิ้งลงน้ำ มะนาวไปทางไหนก็ตามไปทางนั้น ใช้ไม้คานสะบู( ไม้กลมๆ ) เป็นทุ่นตามลูกมะนาวออกจากถ้ำมาโผล่ที่กุดป่อง
แต่บางตำนานก็เล่าขานว่า เป็นเณรน้อยผู้นั้นเองที่ทำผิดศีล เรื่องมีว่า วันหนึ่งได้มีหญิงชาวบ้านจะเข้าไปยืมสมบัติของมีค่ามาแต่งตัว และมีเณรน้อยรูปหนึ่งเดินตามหลังหญิงนั้นเข้าไปด้วย เณรน้อยได้กระทำผิดด้วยเจตนาหยอกเอินหญิงนั้น คือ เอื้อมมือไปบิดก้นของหญิงที่เดินนำหน้า การกระทำเช่นนี้เท่ากับผิดศีล เพราะมีเจตนาจับต้องเนื้อตัวสตรีเพศ ทั้งยังแสดงกิริยาหยาบคาย ไม่สำรวมตน เหมือนไม่เคารพสถานที่อันควรเคารพ ทันใดนั้น เพดานถ้ำบริเวณที่ไว้สมบัติได้ถล่มโครมครืนลงมาปิดทางเข้าทั้งหมด เณรน้อยผู้ทำศีลวิบัติหนีเตลิด จนพลัดตกลงไปในปล่องโพรงพญานาคแล้วไปโผล่ที่กุดป่อง (อำเภอกุดป่อง จังหวัดเลย ในปัจจุบัน) การมีชีวิตรอดออกมาได้ เพียงเพื่อจะบอกเล่าถึงสาเหตุที่ถ้ำเก็บสมบัติถล่มปิดทางเข้าออกเท่านั้น เพราะต่อมาเณรน้อยก็กลายเป็นคนสติฟั่นเฟือน จริตเลอะเลือน พล่ามเพ้อถึงกรรมเลวของตน ตราบกระทั่งตายไปอย่างน่าสลดสังเวช นับแต่นั้น ภูเขาลูกนี้จึงได้ชื่อว่า "ภูบักบิด” แต่ชาวบ้านท้องถิ่นมักเรียกขานภูเขาลูกนี้ว่า “ภูบ่บิด” และเพี้ยนมาเป็น “ภูบ่อบิด” ในปัจจุบัน
วนอุทยานภูบ่อบิด เป็นวนอุทยานที่ประกาศจัดตั้งโดยกรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2539 ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูห้วยหมาก ป่าภูทอก และป่าภูบ่อบิด ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 870 พ.ศ.2522 ท้องที่ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเลย
ต่อมาในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2563 ได้มีประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดบริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูห้วยหมาก ป่าภูทอก และป่าภูบ่อบิด ในท้องที่ตำบลชัยพฤกษ์ และตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ให้เป็นวนอุทยาน เนื้อที่ประมาณ 4,098 ไร่ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 138 ตอนพิเศษ 3 ง หน้า 16 วันที่ 5 มกราคม 2564
![]() |
|
![]() |
รถยนต์
วนอุทยานภูบ่อบิด สามารถท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 19.00 น. ของทุกวัน (ประตูปิดรอบสุดท้ายเวลา 18.30 น.) โดยสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้ 2 เส้นทาง คือ
1. เริ่มต้นจากสามแยกไฟแดงถนนเลย - นาด้วง ให้เลี้ยวไปตามถนนเลย-ห้วยพอด บ้านนาบอน ต.ชัยพฤกษ์ ผ่านหน้าวัดป่าสุทธิสลักธรรม ไปถึงประตูทางเข้าวนอุทยานภูบ่อบิด ประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าตามทางคอนกรีตไปถึงถ้ำพระ ประมาณ 800 เมตร แล้วเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกประมาณ 200 เมตร จะพบถ้ำลอด ที่สามารถเดินผ่านต่ออีกประมาณ 50 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิวยอดภูบ่อบิด ฝั่งด้านทิศตะวันตก หรือ จะเดินผ่านทะลุถ้ำลอด ไปเพียง 20 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิวยอดภูบ่อบิด ฝั่งด้านทิศตะวันออก ระยะทางรวมประมาณ 1.05 กิโลเมตร
2. เริ่มต้นจากสามแยกไฟแดงถนนเลย - นาด้วง ให้ตรงไปตามถนนเลย - นาด้วง ประมาณ ๒ กิโลเมตร จะมีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปวนอุทยานภูบ่อบิด จะพบลานจอดรถ แล้วจึงเดินเท้าต่อไปมุ่งหน้าไปทางสำนักสงฆ์ไตรสวรรค์ จะพบกับบันไดทางขึ้นไปตามเส้นทางประมาณ 550 เมตร จะถึงถ้ำพระแล้วเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกประมาณ 200 เมตร จะพบถ้ำลอด ที่สามารถเดินผ่านต่ออีกประมาณ 50 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิวยอด ภูบ่อบิด ฝั่งด้านทิศตะวันตก หรือ จะเดินผ่านทะลุถ้ำลอด ไปเพียง 20 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิวยอดภูบ่อบิด ฝั่งด้านทิศตะวันออก ระยะทางรวมประมาณ 750 เมตร เท่านั้น