ข้อแนะนำในการกางเต็นท์พักแรม

ข้อแนะนำในการกางเต็นท์พักแรม
|
-
ควรเลือกสถานที่กางเต็นท์ไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง โดยปกติแล้วเลือกพื้นที่ที่เคยใช้ตั้งแคมป์มาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ขยายพื้นที่ตั้งแคมป์ออกไปอีก และหากเป็นการเดินทางครั้งแรกควรหัดกางเต็นท์ให้เป็นเสียก่อนที่จะเดินทาง มิฉะนั้นอาจเสียเวลากางเต็นท์เป็นชั่วโมง หาที่กางเต็นท์ให้ได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดินอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อจะได้มีเวลากางเต็นท์ก่อนที่จะมืด
-
เลือกพื้นที่ตั้งแคมป์ที่มีแหล่งน้ำไหลผ่านเพียงพอและใช้พลาสติปูรองเต็นท์ เพื่อให้พื้นแห้งโดยไม่ต้องขุดร่องระบายน้ำรอบเต็นท์ แต่ให้ตั้งเต็นท์ห่างจากแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างน้อย 100 ฟุต
-
อย่ากางเต็นท์ใต้ต้นไม้ใหญ่เพราถ้าฝนตกกิ่งไม้อาจหักลงมาหรือหากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอาจมีอันตรายจากฟ้าผ่าลงกลางต้นไม้ ดังนั้นควรหาทำเลใต้ร่มเงาไม้ที่ไม่ใหญ่นัก และอยู่ห่างจากต้นไม้สูงๆ โดยคาดคะเนว่าหากไม้ใหญ่ล้ม เต็นท์จะอยู่ห่างจากรัศมีกิ่งไม้ของไม้ที่ล้มลงมา
-
อย่ากางเต็นท์ในที่โล่ง พยายามกางเต็นท์ใต้ลมบริเวณที่มีต้นไม้ เพราถ้ามีลมแรง ลมอาจหอบเอาเต็นท์ปลิวไปทั้งหลัง
-
ไม่ควรกางเต็นท์อยู่บริเวณชายเขา เพราหากฝนตกหนัก น้ำจะไหลผ่านและถ้าหากน้ำเกิดไหลไม่หยุดจะมีน้ำมากจนเกิดอันตรายได้
-
อย่ากางเต็นท์ในทางน้ำไหลหรือลำธารที่แห้งแล้งเด็ดขาด เพราะเมื่อฝนตกไหลบ่าลงลำธาร อาจจะเกิดน้ำไหลเต็มภายในไม่กี่นาที
-
อย่ากางเต็นท์บริเวณที่มีหญ้ารกหรือน้ำเฉอะแฉะ เพราอาจเป็นที่อยู่อาศัยของยุงและแมลง
-
ก่อนกางเต็นท์ควรสังเกตพื้นที่บริเวณนั้นว่าเป็นทางเดินของสัตว์หรือด่านสัตว์หรือเปล่า โดยสังเกตจากรอยเท้าในบริเวณนั้น ถ้าหากคิดว่าไม่ปลอดภัยควรหลีกเลี่ยง
-
หากจำเป็นจะต้องกางเต็นท์ในบริเวณที่ขรุขระ ควรนำใบไม้ใบหญ้ามารองป้องการการเจ็บหลัง
-
การกางเต็นท์ในฤดูฝน จะต้องกางฟลายชีทและขุดร่องระบายน้ำรอบตัวเต็นท์ไว้ด้วย
-
ควรระวังสัตว์มีพิษต่างๆ พวกงู แมงป่อง ตะขาบ ซึ่งจะหาที่แห้งอยู่ตามในเต็นท์ ถุงนอน หรือรองเท้าที่ไม่ได้เก็บอย่างมิชิด ดังนั้น ก่อนสวมใส่หรือใช้งานควรตรวจตราให้ดี ถ้ามียากันแมลงหรือปูนขาวให้โรยไว้รอบเต็นท์