พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช

พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชเป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งแรกของประเทศไทย เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลในช่วงแรกของการกำหนดให้มีพื้นที่สาธิตภายใติโครงการมนุษย์และชีวมณฑลของยูเนสโก ได้รับการประกาศจัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2519 เดิมที่ขอบเขตของพื้นที่สงวนชีวมณฑล คือ พื้นที่ของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ต่อมาในปี 2543 โครงการมนุษย์และชีวมณฑลกำหนดหลักเกณฑ์การจัดการพื้นที่สงวนชีวมณฑลให้มีการแบ่งออกเป็น 3 เขตการจัดการ ได้แก่ พื้นที่แกนกลาง เขตกันชน และพื้นที่รอบนอก พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชได้มีการปรับเขตการจัดการใหม่ โดยขยายเป็น 1,082,295.86 ไร่ (1,731.68 ตารางกิโลเมตร) ครอบคลุมท้องที่อำเภอวังน้ำเขียว และบางส่วนของอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชอยู่ในทำเลที่เป็นเสมือนจุดเชื่อมโยงของเขต ชีวภูมิศาสตร์อินโด-มาลายัน ที่เชื่อมโยงพื้นที่ทางชีวภูมิศาสตร์ย่อย ๆ โดยรอบ ที่ราบสูงโคราชในภาคอีสานของประเทศไทย รวมทั้งอิทธิพลของชนิดพันธุ์จาก ที่ราบภาคกลาง จึงเป็นเหตุผลให้ที่บริเวณสะแกราชเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ทางชีวภาพสูงในประเทศไทยและอาเซียน เป็นที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับป่าไม้เขตศูนย์สูตร เช่น จุลชีพ สมุนไพร สัตว์ป่า หายาก ปัจจัยด้านนิเวศวิทยาต่าง ๆ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พื้นที่ที่มี ความสัมพันธ์กับสังคมโดยรอบอย่างชัดเจนยังเป็นที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมสัตว์ ในพื้นที่โดยรอบชุมชน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนในท้องถิ่นกับสัตว์ป่า ซึ่งนอกจากพื้นที่ของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชแล้ว ยังมีพื้นที่อนุรักษ์ที่มีพื้นที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่สงวนชีวมณฑล ได้แก่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า รวมถึงความเชื่อมต่อกับพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และอุทยานธรณีโลกโคราช

ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่เพื่อนักวิจัยทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเท่านั้น ทั้งนักเรียน ผู้สนใจทั่วไป ยังสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ใน พื้นที่แห่งนี้ โดยมีการประยุกต์และถ่ายทอดความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและภูมิปัญญา ท้องถิ่นไปยังชุมชนท้องถิ่นและผู้มาเยี่ยมชม เสมือนสามเหลี่ยมของการถ่ายทอดองค์ความรู้และปลูกฝังความตระหนักต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางทางชีวภาพและวัฒนธรรมระหว่างหน่วยงานด้านวิชาการในพื้นที่ กับท้องถิ่น และผู้คนจากภายนอก