วันที่ 28 พ.ค.68 นายเฉลิม พุ่มไม้ ผอ.สอป. นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สบอ.2 นายพิทักษ์ อินทรศร พร้อมด้วยสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ผู้นำชุมชน และเครือข่าย รวมประมาณ 170 นาย ได้ร่วมปฏิบัติการเคลื่อนย้ายช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์เข้ามาอยู่ประจำในพื้นที่ ต.บ้านคลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา สรุปการดำเนินการ ดังนี้
1. เวลาประมาณ 20.28 น. ชุด จนท. สามารถยิงยาช้างป่าเป้าหมายเป็นช้างพลายขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 5 ตัน 1 ตัว อยู่ร่วมกับช้างขนาดเล็กอีก 1 ตัว สัตวแพทย์ได้ทยอยให้ยาซึมเพิ่มเติมเพื่อความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้ายช้างป่า
2. เวลาประมาณ 23.10 น. พบว่า ช้างป่าเป้าหมายอยู่ในอาการยืนกรน พร้อมต่อปฏิบัติการเคลื่อนย้าย จึงได้ใช้รถแทรคเตอร์และรถแบคโฮเคลียร์เส้นทางสำหรับนำรถเคลื่อนย้ายช้างเข้าพื้นที่
3. เวลาประมาณเที่ยงคืน พบอุปสรรคในการนำรถเคลื่อนย้ายช้างเข้าพื้นที่ เนื่องจากพื้นดินอ่อนนุ่มเพราะห้วงระยะเวลาที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่ปริมาณมาก คณะเจ้าหน้าที่ได้พยายามนำรถเคลื่อนย้ายช้างเข้าพื้นที่แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
4. เวลาประมาณ 00.40 น. หลังจากพยายามนำรถเคลื่อนย้ายช้างเข้าพื้นที่แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ คณะสัตวแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า ควรยกเลิกภารกิจ เนื่องด้วยระยะเวลาในการให้ยาซึมได้ล่วงเลยมานานแล้ว ประกอบกับการเคลื่อนย้ายช้างป่าไปถึงคอกปรับพฤติกรรมช้างป่าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสอยดาวต้องใช้เวลานาน และสัตวแพทย์ได้ให้ยาซึมกับช้างเป้าหมายไปในปริมาณมากแล้ว หากให้ยาเพิ่มเติมอีกอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตช้างได้
5. เวลาประมาณ 01.45 น. คณะเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชน ต้อง.คลองตะเกรา ได้พิจารณาโดยรอบคอบแล้ว จึงยกเลิกภารกิจการเคลื่อนย้ายช้างป่าฯ และให้ดำเนินการ ดังนี้
5.1 ให้ทีมสัตวแพทย์สังเกตอาการช้างป่าที่ได้รับยาเพื่อเตรียมการขนย้ายจนกว่าจะอยู่ในภาวะปลอดภัย
5.2 ให้ชุดผลักดันช้างป่า ขสป.เขาอ่างฤาไน ร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวัง ทำการพลักดันช้างกลับคืนพื้นที่ป่าอนุรักษ์
5.3 ในระยะปลอดภัยต่อสุขภาพของช้างจากการให้ยาซึมครั้งนี้ หากช้างป่าตัวดังกล่าวยังอยู่ในพื้นที่และสร้างผลกระทบต่อชุมชนอีกจะพิจารณาเคลื่อนย้ายไปปรับพฤติกรรมอีกต่อไป
6. วันที่ 29 พ.ค.68 เวลาประมาณ 07.15 น. พบว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวยังคงอยู่ในพื้นที่ ต.คลองตะเกรา โดยยังมีอาการซึมจากฤทธิ์ยาอยู่