ฮาลา-บาลา

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
(Hala-Bala Wildlife Sanctuary
)

 

อ้างอิง : หนังสือข้อมูลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (2560)  

 

ความเป็นมา

ป่าฮาลาและป่าบาลา มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนกันเป็นป่าดิบขึ้นที่อุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย มีสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองที่สำคัญหลายชนิดอาศัยอยู่อย่างชุกชุม ฉะนั้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งพันธุ์ของสัตว์ป่าและให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป้าโดยปลอดภัย รวมทั้งเป็นการช่วยป้องกันรักษาต้นน้ำลำธารและป่าไม้ที่มีอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ให้คงอยู่ถาวรตลอดไป จึงได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแห่งนี้ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา เมื่อปี 2539 >>คลิก<<

ภูมิประเทศ

ตั้งอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรี ประกอบด้วยพื้นที่ป่า 2 ป่า คือ1. ป่าบาลา ลักษณะโดยทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชัน ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 100 - 953 เมตร 2. ป่าฮาลา ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาสูงชันมีภูเขาสูงต่ำสลับซับซ้อนติดต่อกัน มีความลาดชันสูง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 100-1,490 เมตร ภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศมี 2 ถดู คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน โดยฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ และฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึง เดือนมิถุนายน โดยมีลมมรสุมเป็นปัจจัยในการก่อให้เกิดปริมาณน้ำฝนที่แตกต่างกันในแต่ละเดือน

ความหลากชนิดของสัตว์ป่า

  • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 179 ชนิด นก 384 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 61 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 130 ชนิด
  • ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CR) 6 ชนิด ได้แก่ กระรอกสามสี ชะนีมือดำ นากใหญ่จมูกขน แมวป่า แมวป่าหัวแบน และอีเห็นน้ำ
  • ใกลัสูญพันธุ์ (EN) 9ชนิด ได้แก่ กระจงควาย กระรอกหางม้าใหญ่ เก้งหม้อ ชะมดแผงสันหางดำ ช้างป่า แมวลายหินอ่อน สมเสร็จ เสือโคร่ง และอีเห็นลายพาด
  • มีแนวโน้มใกลัสูญพันธุ์ (NU) 37 ชนิด เช่น กระทิง กระรอกดินหลังลาย ค่างดำ ค่างแว่นถิ่นใต้ ชะนีธรรมดา ชะมดแปลงลายแถบ นากใหญ่ขนเรียบ พญากระรอกบินหูดำ เสือดาว/เสือดำ เสือปลา เสือไฟ เสือลายเมฆ หนูไผ่เล็บมือแบน หนูฟานเล็ก หนูเหม็น หมาใน หมีหมา เป็นต้น

ชนิดป่าไม้

ป่าดิบชื้น 

แผนผังที่ตั้ง