ภูสีฐาน

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน
(Phu Si Than Wildlife Sanctuary
)

 

อ้างอิง : หนังสือข้อมูลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (2560)  

 

ความเป็นมา

พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐานเคยผ่านสัมปทานเพื่อการทำไม้มาก่อน ต่อมาราษฎรในท้องถิ่นโดยสภาตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร มองเห็นคุณค่าของป่าไม้ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนท้องถิ่นที่อยู่อาศัยใกล้ชิดป่าให้ดีขึ้นประกอบกับพื้นที่ปัาดงภูสีฐานมีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาติดต่อกัน บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีแหล่งน้ำและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าอุดมสมบูณ์ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด และเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารของลำน้ำหลายสายในจังหวัดมุกดาหาร้จึงร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกสัมปทานป่ไม้บริเวณป่าดงฏสีฐาน เพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม้ไว้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ดังนั้น เมื่อปี 2529 กรมป่าไม้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจป่าดงภูสีฐาน พบว่าสภาพป่าแห่งนี้มีศักยภาพ และเหมาะสมแก่การสงวนรักษาไว้เป็นป่าตันน้ำและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า จึงดำนินการประกาศเป็นขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน เมื่อปี 2533  >>คลิก<< ต่อมาปี 2543 >>คลิก<< ได้มีพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐานใหม่  โดยกันพื้นที่บางส่วนออกเพื่อเป็นพื้นที่รองรับราษฎรที่อพยพออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน และผนวกพื้นที่บริเวณที่เป็นป่าสมบูรณ์เข้าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐานเพิ่มเติม

ภูมิประเทศ

เป็นภูเขาสูงมีที่ราบบนภูเขา อยู่ในแนวเทือกเขาภูพานตอนล่าง ระดับความสูงอยู่ในช่วง200-592 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดสูงสุดคือภูเมย อยู่ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์พื้นที่ส่วนใหญ่ลาดเอียงลงสู่ทิศเหนือด้านอำเภอคำชะอี้ และอำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหารก่อให้เกิดลำห้วยหลายสาย ได้แก่ห้วยไผ่ ห้วยยาง ห้วยกระแส ห้วยนกเต็น ห้วยตาเปอะและห้วยเลา ทั้งหมดเป็นสาขาของห้วยบางทราย ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง ด้านทิศใต้เป็นต้นกำเนิดของห้วยบงกือ ห้วยคันแท ห้วยทราย ห้วยบังอี่ และห้วยมุกไหลลงสู่แม่น้ำโขงส่วนด้านทิศตะวันตกเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำยัง และลำห้วยสาขาได้แก่ ห้วยแดง ห้วยม่วงและห้วยจุมจังไหลลงสู่แม่น้ำชี ภูมิอากาศ อยู่ในเขตมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีภูมิอากาศแบบกึ่งร้อน มี 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ฤดูหนาวเริ่มจากเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์และฤดูร้อนริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 26.55 องศาเซลเซียสเดือนเมษายนมีค่าอุณหภูมิสูงสุดโดยเฉลี่ย 29.6 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดโดยเฉลี่ย22.25 องศาเซลเซียส อยู่ในเดือนธันวาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี 1.364.71 มิลลิเมตปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูงสุดในเดือนสิงหาคม 306.35 มิลลิเมตร และต่ำสุดในเดือนมกราคมเฉลี่ย 2.01 มิลลิเมตร ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยสูงสุดในเดือนสิงหาคม 81.50 เปอร์เซ็นต์ และต่ำสุด 59.5 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมีนาคม ธรณีวิทยา พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐานเป็นภูเขาในแนวเทือกเขาภูพาน ซึ่งมีสภาพทางธรณีวิทยาเป็นหินตะกอนน้ำจืด ประกอบ๊ด้วยหินทราย หินทรายแป้ง หินดินดาน หินกรวดมน จัดอยู่ในชุดหินโคราช โดยมีหมวดหินภูกระดึง หมวดหินพระวิหาร หมวดหินเสาขัวและหมวดหินภูพ้านทั้งนี้มักพบหินทรายหมวดภูพานในลักษณะเป็นลานหินบริเวณยอดราบของภูเขา ลานหินเหล่านี้มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ปรากฏกระจายอยู่ทั่วพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน ปฐพีวิทยา ลักษณะปฐพีวิทยา มีความสอดคล้องกับลักษณะธรณีวิทยาที่เป็นหินต้นกำเนิดดิน เนื้อดินจึงเป็นดินทราย ดินปนกรวด และเนื่องจากโดยสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขามีความลาดขันมากกว่า 35 เปร์เซนต์ มีเศษหินกระจัดกระจาย และหินโผลโดยทั่วไป จึงจัดอยู่ในกลุ่มดิน Slope Complex สภาพการพังทลายรุนแรง

ความหลากชนิดของสัตว์ป่า

  • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 35 ชนิด นก 92 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 42 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 25 ชนิด

    ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CR) 2 ชนิด ได้แก่ วัวแดง และเสือกระต่าย

    ใกล้สูญพันธุ์ (EN) 3 ชนิด ได้แก่ ค้างคาวหน้ายักษ์จมูกปุ่ม นากใหญ่ธรรมดา และซะมดแปลงลายจุด

    มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ (MU) 15 ชนิด ได้แก่ หนูผีป่าหางจู๋ กระทิง หมาจิ้งจอก หมาใน กระแตหางหนู หมีหมา ชะนีมือขาว กระรอกบินเล็กขาวสูง ค้างคาวยอดกล้วยเล็ก ค้างคาวยอดกล้วยป่า หนูถ้ำ เพียงพอนเหลือง พญากระรอกบินหูดำ ค่างแว่นถิ่นเหนือ และหมีควาย

ชนิดป่าไม้

ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ป่าทุ่งหญ้า

 

แผนผังที่ตั้ง