ห้วยศาลา

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา
(Huai Sala Wildlife Sanctuary
)

 

อ้างอิง : หนังสือข้อมูลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (2560)  

 

ความเป็นมา

จังหวัดศรีสะเกษได้มีหนังสือถึงกรมป่าไม้ขอให้จัดตั้งพื้นที่ป่าห้วยศาลา จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อเป็นการคุ้มครองป้องกันป่าไม้และสัตว์ป่า โดยเฉพาะกูปรีหรือโคไพรซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนหายากและใกลัสูญพันธุ์ที่เชื่อว่ามีหลงเหลืออยู่เนื่องจากมีการพบเขากูปรีที่บ้านปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ โดยมีผู้รับซื้อมาจากชาวบ้านและเป็นการสนองพระราโชวาทของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าที่กำลังจะสูญพันธุ์ เหตุการณ์ที่พบกูปรีดังกล่าวเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางทั้งภายในและต่างประเทศ ประกอบกับกองทุนสัตว์ป่าแห่งโลก (World Widlife Fund) โดยเจ้าชาย Bernhard แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ทรงสนพระทัยและขอความร่วมมือในการสร้างความปลอดภัยแก่กูปรี ในระหว่างนี้มีบริษัทศรีสะเกษทำไม้ ร้องเรียนขอสิทธิทำไม้และให้ทบทวนการกำหนดพื้นที่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อย่างไรก็ตามพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนเป็นพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2520 ห้ามมิให้เข้าอยู่อาศัย และบางส่วนได้มีการยกเลิกการทำไม้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9มกราคม 2532 กรมป่าไม้จึงดำเนินการเพื่อกำหนดพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เมื่อปี 2533 >>คลิก<<

ภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ทอดยาวตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา ในแนวตะวันออก-ตะวันตก โดยมีด้านลาดมาทางทิศเหนือซึ่งเป็นพื้นที่ประเทศไทยส่วนด้านทิศใต้มีความลาดชันสูงจะเป็นหน้าผาหิน และร่องห้วย เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ เช่น ห้วยศาลา ห้วยเสลา ห้วยจันทร์ ห้วยสำราญ ห้วยติ๊กชู ห้วยโอสวาย ห้วยตาจู เป็นต้น ทั้งหมดเป็นลำห้วยสาขาของแม่น้ำมูล

ความหลากชนิดของสัตว์ป่า

  • ความหลากชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 44 ชนิด นก 114 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 22 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 32 ชนิด
  • มีแนวโน้มใกลัสูญพันธุ์ (VU) 5 ชนิด ได้แก่ เสือลายเมฆ หมาจิ้งจอก หมีควาย ค้างคาวหางหนู และค้างคาวยอดกล้วยเล็ก

ชนิดป่าไม้

ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้น

 

แผนผังที่ตั้ง