เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก
(Phanom Dong Rak Wildlife Sanctuary)
![]() |
![]() |
อ้างอิง : หนังสือข้อมูลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (2560) |
ความเป็นมา
ในช่วงปี 2519 ได้มีรายงานว่ามีผู้พบกูปรี (Kou prey) ซึ่งเป็นวัวป่าพันธุ์ที่หายากที่สุดในโลกและกำลังจะสูญพันธุ์ ในบริเวณเทือกเขาพนมดงรัก กรมป่าไม้โดยกองอนุรักษ์สัตว์ป่าจึงได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจข้อมูลเบื้องต้นร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (F.A.O) ในช่วงเดือนเมษายน 2519 การสำรวจพบว่ามีการพบเห็นกูปรึในบริเวณเทือกเขาพนมดงรักและยังพบสัตว์ป่าหายากชนิดอื่นด้วย ต่อมานิยมไพรสมาคมได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2519 เรียกร้องให้กรมป่าไม้ประกาศจัดตั้งพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อสงวนพันธุ์กูปรี ประกอบกับเจ้าชาย Bernhard แห่ง ประเทศเนเธอร์แลนด์ องค์ประธานกองทุนมูลนิธิสัตว์ป่าแห่งโลก (World Wildlife Fund) ได้ทรงมีลายพระหัตถ์ ฉบับลงวันที่ 8 ตุลาคม 2519 กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับกูปรี ซึ่งมีรายงานว่าอยู่ในบริเวณเทือกเขาพนมดงรัก จึงขอพระราชทาน พระมหากรุณาให้มีการจัดตั้งอุทยานหรือสถานที่สำหรับสัตว์ป่าได้มีที่อยู่อาศัย สำนักราชเลขาธิการจึงได้มีหนังสือที่ รล.0003/8517 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2519 แจ้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาต่อมาคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่าป่าบริเวณเทือกเขาพนมดงรักมีสภาพเหมาะสมที่จะเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งขยายพันธุ์ของสัตว์ป่า จึงได้มีมติให้กรมป่าไม้ดำเนินการกำหนดป่าเทือกเขาพนมดงรักเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสัมปทานโครงการทำไม้กระยาเลย ประกอบกับมีปัญหาสถานการณ์ด้านชายแดนไม่สงบเรียบร้อย ทำให้การดำเนินการเพื่อกำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าค่อนข้างล่าช้า จนถึงปี 2521 จึงมีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก >>คลิก<<
ภูมิประเทศ
ภูมิประเทศ เป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยมีที่ราบบนภูเขา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 180 เมตรถึง 671 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่ยอดเขาระหว่างพลาญหินแปดก้อนและพลาญหินศาลภูเขาด้านทิศใต้มีลักษณะยกตัวขึ้นเป็นหน้าผาสูงชัน เทลาดลงไปทางด้านทิศเหนือ เป็นตันน้ำล้ำธารของห้วยขะยูงสาขาของแม่น้ำมูล และมีช่องเขาตามแนวชายแดนหลายช่อง ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเข้า-ออก ระหว่างประเทศไทย-ราชอาณาจักรกัมพูชาภูมิอากาศสภาพภูมิอากาศของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก มี 3 ฤดู ดังนี้ ฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ฤดูฝน อยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ฤดูหนาว อยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม อุณหภูมิอยู่ในช่วง 10.5 องศาเซลเซียส ถึง 40.6 องศาเซลเซียสอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 32.8 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยประมาณ 53.5-90.0 เปอร์เซ็นต์ ธรณีวิทยา พื้นที่ส่วนใหญ่จัดอยู่ในหน่วยหินเสาขัวและมีหน่วยหินภูพาน หน่วยหินพระวิหาร แทรกอยู่บริเวณกลางพื้นที่และขอบหน้าผา ปฐพีวิทยา สภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ดินเป็นกรดต่ำ เป็นดินทรายและหิน สภาพการพังทลาย ปานกลาง
ความหลากชนิดของสัตว์ป่า
ชนิดป่าไม้
ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ
แผนผังที่ตั้ง