เขาสอยดาว

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
(Khao Soi Dao Wildlife Sanctuary
)

 

อ้างอิง : หนังสือข้อมูลเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (2560)  

 

ความเป็นมา

 

เดิมพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีสภาพเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสอยดาวแต่ถูกราษฎรบุกรุกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และล่าสัตว์ป่าอยู่เสมอ กรมป่าไม้ โดยฝ่ายจัดการสัตว์ป่าแห่งชาติ กองบำรุง จึงเข้าไปดำเนินการเพื่อคุ้มครองป่าไม้และสัตว์ป่าโดยปี้ 2508 ได้สำรวจเบื้องต้นและพบว่พื้นที่ป่าแห่งนี้มีความเหมาะสมในการจัดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอย่างยิ่ง กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการเพื่อออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แต่เมื่อปี 2514 >>คลิก<< ซึ่งเป็นระยะเวลาที่มีการดำเนินงานเพื่อออกพระราชกฤษฎีกาอยู่นั้น ทางราชการได้ออกสัมปทานทำไม้ระยะเวลา 30 ปี ให้แก่บริษัทศรีมหาราชา จำกัด ดังนั้นชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้มีหนังสือร้องเรียนต่อคณะปฎิวัติ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์2515 เป็นผลให้สภาบริหารของคณะปฏิวัติลงมตีให้เพิกถอนพื้นที่ป่าบริเวณเขาสอยดาวออกจากขตป่าสัมปทาน ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 200 ลงวันที่ 26 สิงหาคมพ.ศ. 2515 >>คลิก<< กำหนดให้ป่าเขาสอยดาวเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต่อมาเมื่อปี 2541 ได้มีพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนพื้นที่บางส่วนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว >>คลิก<< ในท้องที่ตำบลตะเคียนท้อง กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โดยกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวบริเวณดังกล่าว เพื่อดำเนินงานก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ คลองทุ่งเพล ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงเขตการปกครองในท้องที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว โดยมีการยกฐานะกิ่งอำเภอสอยดาว อำเภอโป้งน้ำร้อนเป็นอำเภอสอยดาว ตั้งกึ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ และตั้งอำเภอแก่งหางแมวสมควรแก้ไขชื่อท้องที่ให้ถูกต้องเสียในคราวเดียวกัน

ภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันสลับชับข้อน โดยมียอดเขาสอยดาวใต้เป็นยอดเขาสูงสุด สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1.675 เมตร ลักษณะพื้นที่มีความลาดชันมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ลาดเชิงเขาซึ่งลำน้ำจากภูเขาไหลผ่าน ทำให้ภูมิประเทศเป็นแพลูกคลื่นลอนชันภูมิอากาศภูมิอากาศมี 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเดือนกูมภาพันธ์ฤดูร้อน ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม และฤดูฝนตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 23.3-31.6 องศาเซลเซียสปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปี 2,874 มิลลิเมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 93 เปอร์เซ็นต์ธรณีวิทยาลักษณะธรณีวิทยาเป็นหินในชุดหินโคราช และชุดหินราชบุรี

ความหลากชนิดของสัตว์ป่า

  • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 122 ชนิด นก 288 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 88 ชนิดสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 31 ชนิด
  • ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (CR) 3 ชนิด ได้แก่ วัวแดง เลือกระต่าย และแมวป่าหัวแบน
  • ใกลัสูญพันธุ์ (EN) 7 ชนิดได้แก่ เนื้อทราย ช้างปา ชะนีมงกุฎ เสือโคร่ง ค้างคาวมงกุฏหูโตมาร์แชลกระจงควาย และซะมดแผงสันหางดำ
  • มีแนวโน้มใกสัสูญพันธุ์ (NU) 19 ชนิด ได้แก่ กระทิง หมาจิ้งจอก เสือไฟ ค้างคาวไอ้แหว่งใหญ่ หมาใน กระแตหางหนู ค้างคาวปีกขนใต้ หมีหมา ค้างคาวหน้ายักษ์หมอบุญส่ง ชะนีธรรมดา ค้างคาวยอดกล้วยเล็ก ค้างคาวยอดกล้วยป่า นากใหญ่ขนเรียบ ลิงเสน เสือดาว เสือปลา ค้างคาวแม่ไก่ป่าฝน ค้างคาวดอยหลังลายขาว และหมีควาย

ชนิดป่าไม้

ป่าดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง

แผนผังที่ตั้ง