เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย

การอนุรักษ์สัตว์ป่าในประเทศไทย ได้มีการดําเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2503 หลังจากการ ประกาศใช้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับแรก โดยกฎหมายได้กําหนดให้มีบริเวณสําหรับเป็นที่ อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัยเพื่อรักษาไว้ซึ่งพันธุ์ของสัตว์ป่า เรียกว่า “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” การกําหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากระทําโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา 

นานาประเทศมีการจัดตั้งพื้นที่เพื่อการคุ้มครองสัตว์ป่าและถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าควบคู่กัน โดยประเทศแคนาดา อินเดีย และกัมพูชา ใช้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Sanctuary) เหมือนกับไทย ขณะที่ประเทศเมียนมาร์เรียก Game Sanctuary ส่วนชื่อ Sanctuary ของประเทศซิมบับเว เป็นพื้นที่สําหรับการฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่า ในประเทศสหรัฐอเมริกามีเขตพิทักษ์สัตว์ป่าแห่งชาติ (National Wildlife Refuge) เพื่อเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ป่าที่อพยพย้ายถิ่นตามฤดูกาล ส่วนประเทศอินโดนีเซียและหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เช่น ประเทศนามิเบีย เรียกว่า เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า (Game Reserve)

นิยามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระบุไว้ว่า "เมื่อปรากฏว่าบริเวณพื้นที่ใดมีสภาพธรรมชาติสมควรต้องอนุรักษ์ไว้ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างปลอดภัย และรักษาไว้ซึ่งพันธุ์สัตว์ป่า ตลอดจนคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือระบบนิเวศให้คงเดิม เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาและให้มีแผนที่แสดงแนวเขตนั้นด้วย บริเวณที่กำหนดนี้เรียกว่า "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า"

จากข้อความข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่าพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มิได้ให้คำนิยามไว้เป็นการเฉพาะ การนิยามความหมายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย หรือในเอกสารต่าง ๆ เป็นการอธิบายขยาย ความบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวทั้งสิ้น เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หมายถึง พื้นที่ที่กําหนดขึ้นเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย สัตว์ป่าได้มีโอกาสสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้มากขึ้น ทําให้สัตว์ป่าบางส่วนได้มีโอกาสกระจายพันธุ์ไปยังพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า หรือหมายถึง พื้นที่ที่กําหนดโดยพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นพื้นที่คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย เป็นการรักษาไว้ซึ่งพันธุ์สัตว์ป่าและขยายจํานวนเพิ่มมากขึ้น

การกำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ 1) เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัยและรักษาไว้ซึ่งพันธ์ุสัตว์ป่า และ 2) เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาประโยชน์จากพื้นที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การกำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. เพื่อคุ้มครองแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า
  2. เพื่อคุ้มครองชนิดพันธ์ุสัตว์ป่าและพืชป่า
  3. เพื่อรักษาแหล่งพันธุกรรมสิ่งมีชีวิต และความสมดุลของระบบนิเวศ
  4. เพื่อรักษาไว้ซึ่งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
  5. เพื่อเป็นแหล่งต้นนํ้าลำธาร
  6. เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาวิจัยด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  7. เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เลือกพื้นที่อย่างไร ? ... เจตนารมณ์ของกฎหมายเกี่ยวกับการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ในการกำหนดเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าก็เพื่อให้ความคุ้มครองสัตว์ป่าทุกชนิด และคุ้มครองแหล่งที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า มีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ คือ แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ชนิดสัตว์ป่า และภัยคุกคาม โดยกิจกรรมของ มนุษย์เป็นภัยคุกคามสำคัญที่มีผลต่อสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทำให้มีปริมาณและคุณภาพน้อยลง การเลือกพื้นที่ในการกำหนดเป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ดังกล่าวแล้ว จึงมีหลักในการพิจารณา ดังนี้

  1. บริเวณที่ดินที่สามารถประกาศเป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าได้ “ต้องเป็นที่ดินที่มิได้อยู่ในกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินของบุคคลใดซึ่งมิใช่ทบวงการเมือง” เท่านั้น และมิได้กำหนดข้อจำกัดอื่นใดอีก ยืนหยัด ใจสมุทร (2556) เห็นว่า บริเวณที่ดินที่จะประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ไม่จำกัดว่าจะต้องใหญ่โตกว้างขวางเพียงใด จำกัดเพียงอย่างเดียวว่า ต้องเป็นที่ดินที่มิได้อยู่ในกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินของบุคคลใดซึ่งมิใช่ทบวงการเมือง ดังนั้น...แม้จะเป็นอุทยานแห่งชาติป่าสงวนแห่งชาติสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือที่ดินที่อยู่ในกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองของทบวงการเมืองก็อาจออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าได้ทั้งสิ้น
  2. มีสัตว์ป่าชุกชุมมีสัตว์ป่าชนิดหายากหรือกำลังจะสูญพันธ์ุอาศัยอยู่โดยพิจารณาสถานภาพของชนิดสัตว์ป่าตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 สถานภาพด้านการอนุรักษ์ในระดับโลกตามการจัดของ IUCN และระดับประเทศโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  3. เป็นผืนป่าขนาดใหญ่โดยพื้นที่ขนาดใหญ่จะสามารถรองรับปริมาณสิ่งมีชีวิตได้มากกว่า
  4. มีแหล่งนํ้าแหล่งอาหารและที่หลบภัยของสัตว์ป่าเพียงพอ
  5. มีสภาพป่าหลากหลายชนิดซึ่งสัตว์ป่าต่างชนิดจะเลือกใช้สภาพป่าที่แตกต่างกัน บ่งบอกถึงความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ทั้งระดับพันธุกรรมชนิดพันธ์ุและระบบนิเวศ
  6. เป็นพื้นที่ห่างไกลจากชุมชน เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นปัจจัยคุกคามที่มีผลกระทบสูงต่อการดำรงอยู่ของสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัย

ประเภทของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย 

ปัจจุบัน...ราชกิจจานุเบกษาบรรจุจำนวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย จำนวน 60 แห่ง แต่หากจะนับจำนวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย ซึ่งแบ่งตามการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ จะมีเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า จำนวนทั้งสิ้น 62 แห่ง รวมเนื้อที่ 23,142,359 ไร่ โดยเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแห่งแรก คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2539 เนื้อที่ 536,594 ไร่ และแห่งล่าสุด คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่ากะทูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่ 61,811 ไร่ ประกาศเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2559 เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดตาก มีเนื้อที่ 2,279,500 ไร่ ส่วนเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุด คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าดอยหลวง จังหวัดแพร่ เนื้อที่ 60,625 ไร่ 

รายชื่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (แบ่งตามกลุ่มป่า) 

1. กลุ่มป่าลุ่มน้ำปาย-สาละวิน

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อำเภอ จังหวัด เนื้อที่ (ไร่)

วันที่ประกาศใน

ราชกิจจานุเบกษา

1) เชียงดาว เชียงดาว, เวียงแห เชียงใหม่ 325,625 24 ส.ค. 2521
2) ดอยเวียงหล้า ขุนยวม แม่ฮ่องสอน 291,610 2 พ.ย. 2543
3) แม่ยวมฝั่งขวา ขุมยวม, แม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน 182,500 1 มี.ค. 2529
4) แม่เลา-แม่แสะ แม่แตง, ปาย เชียงใหม่,
แม่ฮ่องสอน
321,250 22 พ.ย. 2539
5) ลุ่มน้ำปาย

เมืองแม่ฮ่องสอน, ปาย

แม่ฮ่องสอน 738,085 13 ธ.ค. 2515,
24 ธ.ค. 2547
6) สะเมิง สะเมิง เชียงใหม่ 121,250 31 ต.ค. 2543
7) สันปันแดน ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน 173,125 28 ก.ย. 2543
8) สาละวิน แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน 596,875 24 ส.ค. 2521, 
15 ม.ค. 2551

 

2. กลุ่มป่าศรีลานนา-ขุนตาล

9) ดอยผาเมือง แม่ทา, บ้านโฮ่ง,
ลี้, ห้างฉัตร
ลำพูน
ลำปาง
429,449 16 ก.ค. 2523 
15 ม.ค. 2551
10) ถ้ำเจ้าราม ทุ่งเสลี่ยม,
บ้านด่านลานหอย, ศรีสำโรง,
เถิน
สุโขทัย,

ลำปาง
213,171 5 ก.ย. 2544

 

3. กลุ่มป่าดอยภูคา-แม่ยม

11) ดอยผาช้าง ปง, เชียงม่วน,
บ้านหลวง, เมืองน่าน
พะเยา,
น่าน
356,926 31 ธ.ค. 2523
17 มิ.ย. 2531
12) ดอยหลวง สอง แพร่ 60,625 1 ต.ค. 2527
13) น้ำปาด บ้านโคก, ฟากท่า, น้ำปาด อุตรดิตถ์ 320,197 5 ก.ย. 2544
14) แม่จริม บ้านโคก, ฟากท่า, ท่าปลา,
น้ำปาด
อุตรดิตถ์ 412,500 24 ก.ย. 2541
15) ลำน้ำน่านฝั่งขวา เมืองแพร่, สูงเม่น, เด่นชัย,
ท่าปลา, เมืองอุตรดิตถ์
แพร่,
อุตรดิตถ์
146,875 11 ต.ค. 2543
16) เวียงลอ เชียงคำ, จุน, ปง, ดอกคำใต้ พะเยา 231,875 10 มิ.ย. 2540

 

4. กลุ่มป่าแม่ปิง-อมก๋อย

17) แม่ตื่น แม่ระมาด, สามเงา ตาก 733,125 10 ส.ค. 2521,
19 ส.ค. 2526
18) อมก๋อย อมก๋อย, ดอยเต่า,
สามเงา
เชียงใหม่,
ตาก
765,000 19 ส.ค. 2526

 

5. กลุ่มป่าภูเมี่ยง-ภูทอง

19) ภูเมี่ยง-ภูทอง น้ำปาด, ทองแสนขัน,
ชาติตระการ
อุตรดิตถ์,
พิษณุโลก
435,320 31 ธ.ค. 2520,
8 เม.ย. 2535
20) ภูขัด นครไทย พิษณุโลก 150,990 31 ส.ค. 2560

 

6. กลุ่มป่าภูเขียว-น้ำหนาว

21) ซับลังกา ชัยบาดาล ลพบุรี 96,875 31 ธ.ค.2529
22) ตะเบาะ-ห้วยใหญ่ เมืองเพชรบูรณ์,
หนองไผ่,
บึงสามพัน,
หนองบัวแดง,
ภักดีชุมพล
เพชรบูรณ์,

ชัยภูมิ
408,707 10 มิ.ย.2540
23) ผาผึ้ง คอนสาร ชัยภูมิ 118,403 2 พ.ย. 2543
24) ภูเขียว เกษตรสมบูรณ์,
คอนสาร,
หนองบัวแดง
ชัยภูมิ 975,000 26พ.ค.2515,
8 มี.ค. 2522
25) ภูค้อ-ภูกระแต ภูหลวง, ภูกระดึง เลย 145,285 15 ส.ค. 2550
26) ภูผาแดง หล่มสัก เพชรบูรณ์ 146,845 26 พ.ย. 2542
27) ภูหลวง ภูเรือ, ด่านซ้าย,
ภูหลวง, วังสะพุง
หล่มเก่า
เลย,

เพชรบูรณ์
560,593 18 ธ.ค. 2517
26 ก.ย. 2528
16 ส.ค. 2534

 

7. กลุ่มป่าภูพาน

28) ภูสีฐาน

ดงหลวง, คำชะอี,
เขาวง, กุฉินารายณ์

มุกดาหาร,
กาฬสินธุ์
189,541 12 มิ.ย. 2533
8 พ.ย. 2543

 

8. กลุ่มป่าพนมดงรัก-ผาแต้ม

29) บุณฑริก-ยอดมน สิรินธร, บุณฑริก อุบลราชธานี 219,155 23 พ.ย. 2552
30) พนมดงรัก ขุนหาญ,
กันทรลักษณ์
ศรีสะเกษ 197,500 15 ธ.ค. 2521
31) ยอดโดม น้ำยืน อุบลราชธานี 140,845 11 ต.ค. 2520
23 ส.ค. 2523
30 ธ.ค. 2535
32) ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ สังขะ, บัวเชด, 
กาบเชิง
สุรินทร์ 313,445 29 ธ.ค. 2538
7 เม.ย. 2559
33) ห้วยศาลา ขุขันธ์, ขุนหาญ ศรีสะเกษ 237,500 28 ธ.ค. 2533

 

9. กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่

34) ดงใหญ่ ปะคำ, ละหานทราย บุรีรัมย์ 195,486 22 พ.ย. 2539

 

10. กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด)

35) เขาสอยดาว โป่งน้ำร้อน, มะขาม, ท่าใหม่ จันทบุรี 465,602 4ก.ย.2515
24ก.ย.2541
36) เขาอ่างฤๅไน สนามชัยเขต, ท่าตะเกียบ,
วังน้ำเย็น, วังสมบูรณ์,
แก่งหางแมว,
บ่อทอง,
เขาชะเมา, แกลง
ฉะเชิงเทรา
สระแก้ว
จันทบุรี
ชลบุรี
ระยอง
674,352 11 ต.ค. 2520
30 ธ.ค. 2535
5 ก.ย. 2544
37) คลองเครือหวาย
      เฉลิมพระเกียรติฯ
โป่งน้ำร้อน, มะขาม, ขลุง จันทบุรี 165,796 30 ธ.ค. 2541

 

11. กลุ่มป่าตะวันตก

38) เขาสนามเพรียง เมืองกำแพงเพชร กำแพงเพชร 63,125 1 ส.ค. 2528
39) ทุ่งใหญ่นเรศวร
      ด้านตะวันออก
อุ้มผาง ตาก 948,438 24 เม.ย. 2517
21 ส.ค. 2534
40) ทุ่งใหญ่นเรศวร
      ด้านตะวันตก
สังขละบุรี, ทองผาภูมิ กาญจนบุรี 1,331,062 24 เม.ย. 2517
21 ส.ค. 2534
41) สลักพระ บ่อพลอย, ศรีสวัสดิ์,
เมืองกาญจนบุรี
กาญจนบุรี 536,594 31 ธ.ค. 2508
3 ก.พ. 2515
11 ส.ค. 2520
42) ห้วยขาแข้ง บ้านไร่, ลานสัก,
อุ้มผาง
อุทัยธานี
ตาก
1,737,587 4 ก.ย. 2515
21 พ.ค. 2529
30 ธ.ค. 2535
43) อุ้มผาง อุ้มผาง ตาก 1,619,280 17 เม.ย. 2532
30 มี.ค. 2537

 

12. กลุ่มป่าแก่งกระจาน

44) แม่น้ำภาชี สวนผึ้ง, จอมบึง ราชบุรี 305,820 1 ส.ค. 2521

 

13. กลุ่มป่าชุมพร

45) อุทยาน เสด็จในกรม
      กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ
      (ตอนบน)
บางสะพาน,
บางสะพานน้อย
ประจวบฯ 185,000 23 มี.ค. 2531
26 ก.ย. 2537
46) อุทยาน เสด็จในกรม
      กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ
      (ตอนล่าง)
ท่าแซะ ชุมพร 230,620 23 มี.ค. 2531
26 ก.ย. 2537
47) อุทยาน เสด็จในกรม
      กรมหลวงชุมพร ด้านทิศใต้
ท่าแซะ,
กระบุรี
ชุมพร
ระนอง
196,875 23 มี.ค. 2531
26 ก.ย. 2537
48) ทุ่งระยะ-นาสัก กระบุรี,
เมืองชุมพร, สวี
ระนอง
ชุมพร
211,650 10 ก.ค. 2539

 

14. กลุ่มป่าคลองแสง-เขาสก

49) คลองนาคา กะเปอร์,
บ้านตาขุน
ระนอง
สุราษฎร์ธานี
331,456 26 พ.ค. 2515
16 ก.ย. 2534
50) คลองยัน ท่าฉาง, บ้านตาขุน,
คีรีรัฐนิคม
สุราษฎร์ธานี 305,000 30 ธ.ค. 2535
51) คลองแสง คีรีรัฐนิคม, บ้านตาขุน สุราษฎร์ธานี 722,067 18 ธ.ค. 2517
28 เม.ย. 2526
24 ต.ค. 2528
8 พ.ค. 2529
52) ควนแม่ยายหม่อน พะโต๊ะ, ละแม,
เมืองระนอง, กะเปอร์
ชุมพร
ระนอง
290,000 24 ก.พ. 2542
53) น้ำตกสองแพรก กะปง, เมืองพังงา,
ทับปุด
พังงา 138,712.5 15 ส.ค. 2550

 

15. กลุ่มป่าเขาหลวง

54) กะทูน พิปูน นครศรีธรรมราช 61,811 27 มิ.ย. 2559

 

16. กลุ่มป่าเขาบรรทัด

55) เขาบรรทัด นาโยง,ย่านตาขาว, ปะเหลียน
เมืองพัทลุง, กงหรา, ตะโหมด,
ปากพะยูน,
ทุ่งหว้า, ควนกาหลง,
รัตภูมิ
ตรัง
พัทลุง

สตูล
สงขลา
791,847.505 4 ก.ย. 18
26 ส.ค. 20
1 ส.ค. 28
31 ธ.ค. 30
56) โตนงาช้าง รัตภูมิ, หาดใหญ่,
ควนกาหลง
สงขลา
สตูล
181,066 14 ก.ค. 2521
31 ธ.ค. 2529
31 ก.ค. 2560

 

17. กลุ่มป่าฮาลา-บาลา

57) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จ
      พระเทพรัตนราชสุดาฯ
ตากใบ,
สุไหงปาดี,
สุไหงโกลก,
เมืองนราธิวาส
นราธิวาส 123,005.980 12 ก.ย. 2534
10 พ.ย. 2546
15 ม.ค. 2551
58) ฮาลา-บาลา แว้ง, สุคิริน
เบตง
นราธิวาส
ยะลา
391,689 3 ต.ค. 2539
15 ม.ค. 2551

 

18. กลุ่มป่าหมู่เกาะสิมิลัน-พีพี-อันดามัน

59) เขาประ-บางคราม ลำทับ, คลองท่อม,
วังวิเศษ, สิเกา
กระบี่
ตรัง
97,700 28 พ.ค. 2536
60) คลองพระยา ปลายพระยา, อ่าวลึก,
เขาพนม,
พระแรง
กระบี่

สุราษฎร์ธานี
95,988 31 ธ.ค. 2523
17 มิ.ย. 2531

 

19. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ตั้งอยู่นอกกลุ่มป่า

61) เขาเขียว-เขาชมภู่ เมืองชลบุรี, ศรีราชา,
บ้านบึง
ชลบุรี 90,437 2 ก.ค. 2517
62) ภูวัว เมืองบึงกาฬ, เซกา บึงกาฬ 116,562 2 พ.ค. 2518