การอนุรักษ์สัตว์ป่าในประเทศไทย ได้มีการดําเนินการอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2503 หลังจากการ ประกาศใช้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับแรก โดยกฎหมายได้กําหนดให้มีบริเวณสําหรับเป็นที่ อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัยเพื่อรักษาไว้ซึ่งพันธุ์ของสัตว์ป่า เรียกว่า “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า” การกําหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากระทําโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
นานาประเทศมีการจัดตั้งพื้นที่เพื่อการคุ้มครองสัตว์ป่าและถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าควบคู่กัน โดยประเทศแคนาดา อินเดีย และกัมพูชา ใช้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Sanctuary) เหมือนกับไทย ขณะที่ประเทศเมียนมาร์เรียก Game Sanctuary ส่วนชื่อ Sanctuary ของประเทศซิมบับเว เป็นพื้นที่สําหรับการฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่า ในประเทศสหรัฐอเมริกามีเขตพิทักษ์สัตว์ป่าแห่งชาติ (National Wildlife Refuge) เพื่อเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ป่าที่อพยพย้ายถิ่นตามฤดูกาล ส่วนประเทศอินโดนีเซียและหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เช่น ประเทศนามิเบีย เรียกว่า เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า (Game Reserve)
นิยามของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระบุไว้ว่า "เมื่อปรากฏว่าบริเวณพื้นที่ใดมีสภาพธรรมชาติสมควรต้องอนุรักษ์ไว้ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างปลอดภัย และรักษาไว้ซึ่งพันธุ์สัตว์ป่า ตลอดจนคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือระบบนิเวศให้คงเดิม เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาและให้มีแผนที่แสดงแนวเขตนั้นด้วย บริเวณที่กำหนดนี้เรียกว่า "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า"
จากข้อความข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่าพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มิได้ให้คำนิยามไว้เป็นการเฉพาะ การนิยามความหมายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย หรือในเอกสารต่าง ๆ เป็นการอธิบายขยาย ความบทบัญญัติในมาตราดังกล่าวทั้งสิ้น เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หมายถึง พื้นที่ที่กําหนดขึ้นเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย สัตว์ป่าได้มีโอกาสสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้มากขึ้น ทําให้สัตว์ป่าบางส่วนได้มีโอกาสกระจายพันธุ์ไปยังพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า หรือหมายถึง พื้นที่ที่กําหนดโดยพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เป็นพื้นที่คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย เป็นการรักษาไว้ซึ่งพันธุ์สัตว์ป่าและขยายจํานวนเพิ่มมากขึ้น
การกำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ 1) เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัยและรักษาไว้ซึ่งพันธ์ุสัตว์ป่า และ 2) เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาประโยชน์จากพื้นที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การกำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีวัตถุประสงค์ดังนี้
เลือกพื้นที่อย่างไร ? ... เจตนารมณ์ของกฎหมายเกี่ยวกับการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ในการกำหนดเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าก็เพื่อให้ความคุ้มครองสัตว์ป่าทุกชนิด และคุ้มครองแหล่งที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามต่าง ๆ จะเห็นได้ว่า มีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ คือ แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ชนิดสัตว์ป่า และภัยคุกคาม โดยกิจกรรมของ มนุษย์เป็นภัยคุกคามสำคัญที่มีผลต่อสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ทำให้มีปริมาณและคุณภาพน้อยลง การเลือกพื้นที่ในการกำหนดเป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ดังกล่าวแล้ว จึงมีหลักในการพิจารณา ดังนี้
ประเภทของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย
ปัจจุบัน...ราชกิจจานุเบกษาบรรจุจำนวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย จำนวน 60 แห่ง แต่หากจะนับจำนวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย ซึ่งแบ่งตามการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ จะมีเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า จำนวนทั้งสิ้น 62 แห่ง รวมเนื้อที่ 23,142,359 ไร่ โดยเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าแห่งแรก คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2539 เนื้อที่ 536,594 ไร่ และแห่งล่าสุด คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่ากะทูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื้อที่ 61,811 ไร่ ประกาศเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2559 เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดตาก มีเนื้อที่ 2,279,500 ไร่ ส่วนเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุด คือ เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าดอยหลวง จังหวัดแพร่ เนื้อที่ 60,625 ไร่
รายชื่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย (แบ่งตามกลุ่มป่า)
1. กลุ่มป่าลุ่มน้ำปาย-สาละวิน
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า | อำเภอ | จังหวัด | เนื้อที่ (ไร่) |
วันที่ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา |
1) เชียงดาว | เชียงดาว, เวียงแห | เชียงใหม่ | 325,625 | 24 ส.ค. 2521 |
2) ดอยเวียงหล้า | ขุนยวม | แม่ฮ่องสอน | 291,610 | 2 พ.ย. 2543 |
3) แม่ยวมฝั่งขวา | ขุมยวม, แม่ลาน้อย | แม่ฮ่องสอน | 182,500 | 1 มี.ค. 2529 |
4) แม่เลา-แม่แสะ | แม่แตง, ปาย | เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน |
321,250 | 22 พ.ย. 2539 |
5) ลุ่มน้ำปาย |
เมืองแม่ฮ่องสอน, ปาย |
แม่ฮ่องสอน | 738,085 | 13 ธ.ค. 2515, 24 ธ.ค. 2547 |
6) สะเมิง | สะเมิง | เชียงใหม่ | 121,250 | 31 ต.ค. 2543 |
7) สันปันแดน | ปางมะผ้า | แม่ฮ่องสอน | 173,125 | 28 ก.ย. 2543 |
8) สาละวิน | แม่สะเรียง | แม่ฮ่องสอน | 596,875 | 24 ส.ค. 2521, 15 ม.ค. 2551 |
2. กลุ่มป่าศรีลานนา-ขุนตาล
9) ดอยผาเมือง | แม่ทา, บ้านโฮ่ง, ลี้, ห้างฉัตร |
ลำพูน ลำปาง |
429,449 | 16 ก.ค. 2523 15 ม.ค. 2551 |
10) ถ้ำเจ้าราม | ทุ่งเสลี่ยม, บ้านด่านลานหอย, ศรีสำโรง, เถิน |
สุโขทัย, ลำปาง |
213,171 | 5 ก.ย. 2544 |
3. กลุ่มป่าดอยภูคา-แม่ยม
11) ดอยผาช้าง | ปง, เชียงม่วน, บ้านหลวง, เมืองน่าน |
พะเยา, น่าน |
356,926 | 31 ธ.ค. 2523 17 มิ.ย. 2531 |
12) ดอยหลวง | สอง | แพร่ | 60,625 | 1 ต.ค. 2527 |
13) น้ำปาด | บ้านโคก, ฟากท่า, น้ำปาด | อุตรดิตถ์ | 320,197 | 5 ก.ย. 2544 |
14) แม่จริม | บ้านโคก, ฟากท่า, ท่าปลา, น้ำปาด |
อุตรดิตถ์ | 412,500 | 24 ก.ย. 2541 |
15) ลำน้ำน่านฝั่งขวา | เมืองแพร่, สูงเม่น, เด่นชัย, ท่าปลา, เมืองอุตรดิตถ์ |
แพร่, อุตรดิตถ์ |
146,875 | 11 ต.ค. 2543 |
16) เวียงลอ | เชียงคำ, จุน, ปง, ดอกคำใต้ | พะเยา | 231,875 | 10 มิ.ย. 2540 |
4. กลุ่มป่าแม่ปิง-อมก๋อย
17) แม่ตื่น | แม่ระมาด, สามเงา | ตาก | 733,125 | 10 ส.ค. 2521, 19 ส.ค. 2526 |
18) อมก๋อย | อมก๋อย, ดอยเต่า, สามเงา |
เชียงใหม่, ตาก |
765,000 | 19 ส.ค. 2526 |
5. กลุ่มป่าภูเมี่ยง-ภูทอง
19) ภูเมี่ยง-ภูทอง | น้ำปาด, ทองแสนขัน, ชาติตระการ |
อุตรดิตถ์, พิษณุโลก |
435,320 | 31 ธ.ค. 2520, 8 เม.ย. 2535 |
20) ภูขัด | นครไทย | พิษณุโลก | 150,990 | 31 ส.ค. 2560 |
6. กลุ่มป่าภูเขียว-น้ำหนาว
21) ซับลังกา | ชัยบาดาล | ลพบุรี | 96,875 | 31 ธ.ค.2529 |
22) ตะเบาะ-ห้วยใหญ่ | เมืองเพชรบูรณ์, หนองไผ่, บึงสามพัน, หนองบัวแดง, ภักดีชุมพล |
เพชรบูรณ์, ชัยภูมิ |
408,707 | 10 มิ.ย.2540 |
23) ผาผึ้ง | คอนสาร | ชัยภูมิ | 118,403 | 2 พ.ย. 2543 |
24) ภูเขียว | เกษตรสมบูรณ์, คอนสาร, หนองบัวแดง |
ชัยภูมิ | 975,000 | 26พ.ค.2515, 8 มี.ค. 2522 |
25) ภูค้อ-ภูกระแต | ภูหลวง, ภูกระดึง | เลย | 145,285 | 15 ส.ค. 2550 |
26) ภูผาแดง | หล่มสัก | เพชรบูรณ์ | 146,845 | 26 พ.ย. 2542 |
27) ภูหลวง | ภูเรือ, ด่านซ้าย, ภูหลวง, วังสะพุง หล่มเก่า |
เลย, เพชรบูรณ์ |
560,593 | 18 ธ.ค. 2517 26 ก.ย. 2528 16 ส.ค. 2534 |
7. กลุ่มป่าภูพาน
28) ภูสีฐาน |
ดงหลวง, คำชะอี, |
มุกดาหาร, กาฬสินธุ์ |
189,541 | 12 มิ.ย. 2533 8 พ.ย. 2543 |
8. กลุ่มป่าพนมดงรัก-ผาแต้ม
29) บุณฑริก-ยอดมน | สิรินธร, บุณฑริก | อุบลราชธานี | 219,155 | 23 พ.ย. 2552 |
30) พนมดงรัก | ขุนหาญ, กันทรลักษณ์ |
ศรีสะเกษ | 197,500 | 15 ธ.ค. 2521 |
31) ยอดโดม | น้ำยืน | อุบลราชธานี | 140,845 | 11 ต.ค. 2520 23 ส.ค. 2523 30 ธ.ค. 2535 |
32) ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ | สังขะ, บัวเชด, กาบเชิง |
สุรินทร์ | 313,445 | 29 ธ.ค. 2538 7 เม.ย. 2559 |
33) ห้วยศาลา | ขุขันธ์, ขุนหาญ | ศรีสะเกษ | 237,500 | 28 ธ.ค. 2533 |
9. กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
34) ดงใหญ่ | ปะคำ, ละหานทราย | บุรีรัมย์ | 195,486 | 22 พ.ย. 2539 |
10. กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด)
35) เขาสอยดาว | โป่งน้ำร้อน, มะขาม, ท่าใหม่ | จันทบุรี | 465,602 | 4ก.ย.2515 24ก.ย.2541 |
36) เขาอ่างฤๅไน | สนามชัยเขต, ท่าตะเกียบ, วังน้ำเย็น, วังสมบูรณ์, แก่งหางแมว, บ่อทอง, เขาชะเมา, แกลง |
ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี ชลบุรี ระยอง |
674,352 | 11 ต.ค. 2520 30 ธ.ค. 2535 5 ก.ย. 2544 |
37) คลองเครือหวาย เฉลิมพระเกียรติฯ |
โป่งน้ำร้อน, มะขาม, ขลุง | จันทบุรี | 165,796 | 30 ธ.ค. 2541 |
11. กลุ่มป่าตะวันตก
38) เขาสนามเพรียง | เมืองกำแพงเพชร | กำแพงเพชร | 63,125 | 1 ส.ค. 2528 |
39) ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันออก |
อุ้มผาง | ตาก | 948,438 | 24 เม.ย. 2517 21 ส.ค. 2534 |
40) ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก |
สังขละบุรี, ทองผาภูมิ | กาญจนบุรี | 1,331,062 | 24 เม.ย. 2517 21 ส.ค. 2534 |
41) สลักพระ | บ่อพลอย, ศรีสวัสดิ์, เมืองกาญจนบุรี |
กาญจนบุรี | 536,594 | 31 ธ.ค. 2508 3 ก.พ. 2515 11 ส.ค. 2520 |
42) ห้วยขาแข้ง | บ้านไร่, ลานสัก, อุ้มผาง |
อุทัยธานี ตาก |
1,737,587 | 4 ก.ย. 2515 21 พ.ค. 2529 30 ธ.ค. 2535 |
43) อุ้มผาง | อุ้มผาง | ตาก | 1,619,280 | 17 เม.ย. 2532 30 มี.ค. 2537 |
12. กลุ่มป่าแก่งกระจาน
44) แม่น้ำภาชี | สวนผึ้ง, จอมบึง | ราชบุรี | 305,820 | 1 ส.ค. 2521 |
13. กลุ่มป่าชุมพร
45) อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน) |
บางสะพาน, บางสะพานน้อย |
ประจวบฯ | 185,000 | 23 มี.ค. 2531 26 ก.ย. 2537 |
46) อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนล่าง) |
ท่าแซะ | ชุมพร | 230,620 | 23 มี.ค. 2531 26 ก.ย. 2537 |
47) อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศใต้ |
ท่าแซะ, กระบุรี |
ชุมพร ระนอง |
196,875 | 23 มี.ค. 2531 26 ก.ย. 2537 |
48) ทุ่งระยะ-นาสัก | กระบุรี, เมืองชุมพร, สวี |
ระนอง ชุมพร |
211,650 | 10 ก.ค. 2539 |
14. กลุ่มป่าคลองแสง-เขาสก
49) คลองนาคา | กะเปอร์, บ้านตาขุน |
ระนอง สุราษฎร์ธานี |
331,456 | 26 พ.ค. 2515 16 ก.ย. 2534 |
50) คลองยัน | ท่าฉาง, บ้านตาขุน, คีรีรัฐนิคม |
สุราษฎร์ธานี | 305,000 | 30 ธ.ค. 2535 |
51) คลองแสง | คีรีรัฐนิคม, บ้านตาขุน | สุราษฎร์ธานี | 722,067 | 18 ธ.ค. 2517 28 เม.ย. 2526 24 ต.ค. 2528 8 พ.ค. 2529 |
52) ควนแม่ยายหม่อน | พะโต๊ะ, ละแม, เมืองระนอง, กะเปอร์ |
ชุมพร ระนอง |
290,000 | 24 ก.พ. 2542 |
53) น้ำตกสองแพรก | กะปง, เมืองพังงา, ทับปุด |
พังงา | 138,712.5 | 15 ส.ค. 2550 |
15. กลุ่มป่าเขาหลวง
54) กะทูน | พิปูน | นครศรีธรรมราช | 61,811 | 27 มิ.ย. 2559 |
16. กลุ่มป่าเขาบรรทัด
55) เขาบรรทัด | นาโยง,ย่านตาขาว, ปะเหลียน เมืองพัทลุง, กงหรา, ตะโหมด, ปากพะยูน, ทุ่งหว้า, ควนกาหลง, รัตภูมิ |
ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา |
791,847.505 | 4 ก.ย. 18 26 ส.ค. 20 1 ส.ค. 28 31 ธ.ค. 30 |
56) โตนงาช้าง | รัตภูมิ, หาดใหญ่, ควนกาหลง |
สงขลา สตูล |
181,066 | 14 ก.ค. 2521 31 ธ.ค. 2529 31 ก.ค. 2560 |
17. กลุ่มป่าฮาลา-บาลา
57) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ |
ตากใบ, สุไหงปาดี, สุไหงโกลก, เมืองนราธิวาส |
นราธิวาส | 123,005.980 | 12 ก.ย. 2534 10 พ.ย. 2546 15 ม.ค. 2551 |
58) ฮาลา-บาลา | แว้ง, สุคิริน เบตง |
นราธิวาส ยะลา |
391,689 | 3 ต.ค. 2539 15 ม.ค. 2551 |
18. กลุ่มป่าหมู่เกาะสิมิลัน-พีพี-อันดามัน
59) เขาประ-บางคราม | ลำทับ, คลองท่อม, วังวิเศษ, สิเกา |
กระบี่ ตรัง |
97,700 | 28 พ.ค. 2536 |
60) คลองพระยา | ปลายพระยา, อ่าวลึก, เขาพนม, พระแรง |
กระบี่ สุราษฎร์ธานี |
95,988 | 31 ธ.ค. 2523 17 มิ.ย. 2531 |
19. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ตั้งอยู่นอกกลุ่มป่า
61) เขาเขียว-เขาชมภู่ | เมืองชลบุรี, ศรีราชา, บ้านบึง |
ชลบุรี | 90,437 | 2 ก.ค. 2517 |
62) ภูวัว | เมืองบึงกาฬ, เซกา | บึงกาฬ | 116,562 | 2 พ.ค. 2518 |