9 มี.ค. 64 กรมอุทยานฯ แถลงข่าวกรณีเข้าตรวจสอบกิจการสวนสัตว์ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม
วันที่ 9 มีนาคม 2564 ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดร.รุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย (GEF. 6) ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการตรวจสอบกิจการสวนสัตว์มุกดาสวนเสือและฟาร์ม พร้อมกับถ่ายทอดสดทางไกล(LIVE) ร่วมกับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ที่ได้เข้าตรวจสอบสวนสัตว์มุกดา ของนายสมดิษฐ์ ธรรมเวช ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสวนสัตว์ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม ที่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร
ดร.รุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีฯ กล่าวว่า จากกรณีวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา กรมอุทยานฯได้เข้าทำการตรวจสอบ สวนสัตว์มุกดาสวนเสือและฟาร์ม และตรวจยึด จับกุม ดำเนินคดี และได้ตรวจยึดลูกเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว คือ 1. เสือโคร่ง เพศผู้ ชื่อ “ข้าวยำ” 2. เสือโคร่ง เพศเมีย ชื่อ “ข้าวจ้าว” และ 3. เสือโคร่ง เพศเมีย ชื่อ “ข้าวกล่ำ” เนื่องจากไม่มีความสัมพันธ์เป็นลูกของ เสือโคร่งเพศผู้ ชื่อ“ให้ลาภ” และเสือโคร่งเพศเมีย “ให้ทอง” ตามที่ได้แจ้งไว้ การกระทำผิดกฎหมายของมุกดาสวนเสือและฟาร์ม เป็นเหตุให้ กรมอุทยานฯพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการสวนสัตว์ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 เป็นเวลา 30 วัน และได้มีการอายัด สัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเสือโคร่ง ไว้เพื่อการตรวจสอบอีก จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 1. เสือโคร่ง เพศผู้ ชื่อ “ข้าวเม่า” 2. เสือโคร่ง เพศเมีย ชื่อ “ข้าวเปลือก” 3. ซากเสือโคร่ง เพศเมีย ชื่อ “ข้าวเหนียว” เพื่อตรวจสอบสารพันธุกรรม (DNA) หาความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ลูก ตามที่สวนสัตว์ได้แจ้งเกิดไว้ ว่าเป็นลูกของเสือโคร่งเพศผู้ ชื่อ “โดโด้” และเสือโคร่งเพศเมีย ชื่อ “มะเฟือง”
ด้านนายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มีผลรายงานเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 และศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ รายงานเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า เสือโคร่งเพศผู้ ชื่อ “ข้าวเม่า” และเสือโคร่งเพศเมีย ชื่อ “ข้าวเปลือก” ไม่มีความสัมพันธ์เป็นลูกกับ “โดโด้” และ “มะเฟือง” และซากเสือโคร่งเพศเมีย ชื่อ “ข้าวเหนียว” ไม่มีความสัมพันธ์เป็นลูกของ “โดโด้” และ “มะเฟือง” เช่นเดียวกัน อีกทั้งไม่มีความสัมพันธ์เป็นลูกของ “ให้ลาภ” และ “ให้ทอง” แต่อย่างใด วันนี้จึงได้เข้าดำเนินการตรวจสอบกิจการแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำความผิด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่ นายสมดิษฐ์ ผู้ได้รับใบอนุญาตฯ ดังนี้
1. ความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
2. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ฐาน“ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และมาตรา 267 ฐาน “ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จ ลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
3. หากตรวจพบการกระทำผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ต่อไป
สำหรับแนวทางการปฏิบัติการของกรมอุทยานฯ
1. ตรวจสอบกิจการสวนสัตว์ มุกดาสวนเสือและฟาร์ม เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
2. กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในคดีความอาญา
3. กรมอุทยานฯ จะดำเนินการทางปกครองตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ดังนี้
มาตรา 76 “…ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง แก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดให้…”
มาตรา 77 “…ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือใบรับรอง เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองไม่ปฏิบัติตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีคาสั่งตามมาตรา 76…”
มาตรา 78 “…ให้อธิบดีมีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองได้ เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองฝ่าฝืนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือใบรับรอง หรือไม่แก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง ภายในระยะเวลาที่อธิบดีกำหนด หรือผู้รับใบอนุญาตเคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือใบรับรองและได้กระทำการอันเป็นเหตุให้ต้องถูกพักใช้ใบอนุญาตหรือใบรับรองตามมาตรา 76 อีกภายในหนึ่งปี…”
มาตรา 79 “…ในกรณีที่อธิบดีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรอง ถ้าผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ มีสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากของสัตว์ป่าดังกล่าวไว้ในครอบครอง ให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด…”
