"สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 พร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง"
เมื่อพบเหตุเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า โปรดโทรศัพท์แจ้ง
สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 หรือ เพจสายด่วน1362
ความเป็นมาของศูนย์สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดตั้งสายด่วน 1362 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ และบริการข้อมูลข่าวสารตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งสามารถส่งเรื่องไปยังผู้รับผิดชอบโดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที และให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) ได้สั่งการเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปรับปรุงหมายเลขโทรศัพท์สายด่วนบริการประชาชนให้เป็นหมายเลขเดียวกัน โดยใช้หมายเลขสายด่วน 1362 ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้มีคำสั่ง ที่ 159/2561 เรื่อง จัดตั้งศูนย์สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 เพื่อให้เกิดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีหมายเลขสายด่วนบริการประชาชน ประกอบด้วย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในด้านการรับแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การให้บริการข้อมูลข่าวสารและการรับแจ้งเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ บังเกิดผลเป็นรูปธรรม และมีหมายเลขเดียวกันเป็นที่จดจำง่ายต่อประชาชน จึงจัดตั้งศูนย์สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ขึ้น โดยเริ่มดำเนินการเปิดรับแจ้งเหตุและบริการข้อมูลข่าวสารตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2561 อนึ่ง การรับแจ้งเหตุสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 (ตั้งแต่เดือน มิถุนายน – กันยายน 2561) ได้รับแจ้งเหตุต่างๆ รวมจำนวนทั้งสิ้น 631 ราย (เฉลี่ยวันละ 5 ราย) โดยเรื่องที่ได้รับแจ้งสูงสุด คือ สัตว์ป่าสร้างความเดือดร้อน จำนวน 268 ราย และรองลงมา คือ สัตว์ป่าผลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บ จำนวน 116 ราย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้การบริการรับแจ้งเหตุ และการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถช่วยให้การปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามผล และประชาสัมพันธ์ ได้อย่างรวดเร็ว
3. สามารถประสานการปฏิบัติงาน และความร่วมมือต่างๆ เกิดการบูรณาการกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
4. เป็นการสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวังการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
5. เป็นการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนกับหน่วยงานราชการ
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ทำให้รับทราบข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และสัตว์ป่าและการแจ้งเหตุต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ทันเหตุการณ์ ทำให้การปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. มีเครือข่ายเฝ้าระวัง รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มากขึ้น
3. ทำให้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกิดการบูรณาการในการดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ สามารถตรวจสอบ และติดตามผลได้
4. ทำให้สามารถประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจ
5. ประชาชนให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า และเป็นการส่งเสริมความเข้าใจอันดี ระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของภาครัฐ