กรณีเจ้าหน้าที่พบมีการประกาศขายนกปรอดหัวตาขาวและนกปรอดเทาหัวขาว สัตว์ป่าคุ้มครองผ่านเฟซบุ๊ก และสืบทราบว่ามีการนำมาเก็บพักนกชนิดดังกล่าว ไว้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลบางเมือง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
นายนาวี ช้างภิรมย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบก็พบกับนายกิตติศักดิ์ (อายุ 43 ปี) อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และแสดงตนเป็นเจ้าของนก
จากการตรวจสอบพบสัตว์ป่าคุ้มครอง อยู่บริเวณโรงจอดหน้าบ้านหลังดังกล่าว ประกอบด้วยนกปรอดเทาหัวขาว 4 ตัว นกปรอดเหลืองหัวจุก 1 ตัว นกปรอดหัวสีเขม่า 3 ตัว นกปรอดหัวโขนหรือนกกรงหัวจุก 7 ตัว นกเขียวก้านตองใหญ่ 1 ตัว นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง 4 ตัว และนกปรอดหัวตาขาว 7 ตัว รวมนกมี 7 ชนิด รวมทั้งสิ้น 27 ตัว
ด้านนายกิตติศักดิ์ ให้ถ้อยคำว่า ตนเองเพิ่งลาออกจากงาน และได้ซื้อนกผ่านทางเฟซบุ๊ก มาจากทางภาคเหนือเพื่อนำมาเลี้ยงไว้ดูเล่น และฟังเสียงร้อง ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว แต่เนื่องจากยังไม่มีงานใหม่ จึงได้นำนกปรอดเทาหัวขาว และนกปรอดหัวตาขาว มาโพสต์ขาย ทั้งนี้นกดังกล่าวไม่มีหลักฐานการอนุญาตให้ค้า ครอบครอง และเพาะพันธุ์ จากทางราชการและไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (ห่วงขา) แต่อย่างใด
ดังนั้นการกระทำของนายกิตติศักดิ์ กรณีครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกนก ชนิดดังกล่าวข้างต้น โดยไม่มีหลักฐานการได้มาของทางราชการ และนำมาประกาศหรือโฆษณาหรือนำเสนอทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสื่อใดๆ เพื่อการค้า มีความผิดตามมาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวข้าวต้น พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกนก ชนิดและจำนวนดังกล่าว พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ส่งมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับไปดูแลและเก็บรักษาจนกว่าคดีถึงที่สุด
โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) ได้มีนโยบายต่อต้านการค้าสัตว์ป่าทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันมิให้สัตว์ป่าสูญพันธุ์ และให้เพิ่มการป้องกันและปราบปราม ตามนโยบายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยกกำลังเอ็กซ์ ในปี พ.ศ. 2565 และคำสั่งการนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยเน้นย้ำและรณรงค์ให้หยุดกิน หยุดล่า หยุดค้าและไม่นำสัตว์ป่ามาครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย เกี่ยวกับสัตว์ป่าอย่างเคร่งครัด
คณะเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมดำเนินการประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1(ภาคกลาง) กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ