แผนปฏิบัติการลดการใช้พลังงาน (ไฟฟ้าและน้ำมัน)
สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช
ประจำปีงบประมาณ 2561
หลักการและเหตุผล
ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานน้ำมัน จึงทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อให้เพียงพอต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆ จนปัจจุบันกำลังผลิตพลังงานน้ำมันภายในประเทศลดลงและอาจะหมดไปได้ในอนาคต สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ได้ตระหนักถึงความสำคัญในภาพรวมของการประหยัดพลังงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเหตุให้งบประมาณรายจ่ายของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพิ่มขึ้น ทั้งยังทำให้การใช้พลังงานเป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคลากรภายในสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้และบังเกิดผลเป็นรูปธรรม เป็นไปตามมาตรการประหยัดพลังงานของส่วนราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555 ให้หน่วยงานราชการดำเนินมาตรการลดการใช้พลังงานลงให้ได้อย่างน้อย 10% (เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานกลางที่กระทรวงพลังงานกำหนด) เพื่อลดการนำเข้าและพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการลดการใช้พลังงาน(ไฟฟ้าและน้ำมัน) ของสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ประจำปีงบประมาณ 2561 ขึ้น และการที่จะมุ่งให้แผนดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้นนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างและบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เพื่อลดการใช้พลังงานของสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืชให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด
วัตถุประสงค์
สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ลดการใช้พลังงาน อย่างน้อย 10% (เมื่อเทียบกับการใช้พลังงาน ปี พ.ศ. 2560)
วิธีการดำเนินงาน
1. รวบรวมข้อมูลการใช้พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
2. แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินงานด้านการลดพลังงาน (ไฟฟ้าและน้ำมัน)
3. จัดทำแผนและกำหนดมาตรการ/แนวทางประหยัดพลังงาน
4. ดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงาน
5. กำกับติดตามการใช้พลังงานตามมาตรการประหยัดพลังงาน
6. รายงานความก้าวหน้าปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ
ระยะเวลาดำเนินการ
ตุลาคม 2560 – กันยายน 2561
มาตรการประหยัดพลังงาน
ของสำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช
แนบท้ายแผนประหยัดพลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2561
มาตรการประหยัด
1. มาตรการประหยัดไฟฟ้า
1.1 เครื่องปรับอากาศ
1.1.1 สำนักงานเปิดเครื่องปรับอากาศเวลา 08.30 - 12.00 น. และ 13.00 - 16.00 น.
1.1.2 หากไม่มีบุคลากรอยู่ในห้องทำงาน ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้ง
1.1.3 ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส
1.1.4 ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเดือนละ 1 ครั้ง และล้างเครื่องปรับอากาศทุกๆ 6 เดือน
1.1.5 สำหรับห้องประชุม เปิดเครื่องปรับอากาศก่อนการประชุม ประมาณ 10 - 15 นาที และเมื่อเลิกการประชุมให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปิดเครื่องปรับอากาศทันทีและไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศครบทุกตัว
1.1.6 ห้ามบุคลากรของหน่วยงาน นอนพักค้างคืนบนสำนักงาน
1.2 ไฟส่องสว่างและเครื่องใช้ไฟฟ้า
1.2.1 ปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนทำงานในห้องทำงาน
1.2.2 เปิดไฟเฉพาะดวงที่จำเป็น
1.2.3 ไม่เปิดไฟบริเวณช่องทางเดิน
1.2.4 ไม่ควรใช้หลอดไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
1.2.5 เปิด - ปิดไฟ บริเวณใต้อาคาร ถนน และสนามให้ตรงตามเวลา
1.2.6 ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อไม่ใช้งานเกิน 15 นาที และหลังเลิกใช้งาน ให้ถอดปลั๊กไฟและปิดเครื่องสำรองไฟ
1.2.7 ปิดหน้าจอภาพคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน
1.2.8 ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน
1.2.9 เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปิดสำนักงาน ต้องตรวจสอบ ดูแลการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในสำนักงาน
1.3 ลิฟต์
1.3.1 เขียนป้ายคำเชิญชวนประหยัดการใช้ไว้หน้าลิฟต์และในลิฟต์
1.3.2 เปิด - ปิด ลิฟต์ เวลา 07.30 – 17.00 น.
1.3.3 เปิดลิฟต์ทุกชั้น ยกเว้นชั้น 2
1.3.4 ห้ามคนขายสินค้าใช้ลิฟต์ตามลำพัง
2. มาตรการประหยัดน้ำมัน
2.1 การเดินทางไปราชการคนเดียว ให้เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
2.2 การเดินทางไปราชการเป็นหมู่คณะควรใช้รถราชการ ไม่ควรขอใช้รถส่วนตัว
2.3 บำรุงรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ เช่น ตรวจเช็คลมยาง น้ำมันเครื่อง น้ำกลั่น และไส้กรองอากาศ ฯลฯ
2.4 ขับรถด้วยอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด
2.5 ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางและเลือกใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด
Action Plan to Reduce Energy Consumption.pdf