33.สารภีป่า

สารภีป่า

 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anneslea fragrans Wall.
วงศ์ : Ternstroemieae
ชื่ออื่น : แก้มอ้น (ชุมพร); คำโซ่, ตองหนัง, ต้ำจึง, ตีนจำ, ทำซุง, บานมา, พระราม,
โมงนั่ง (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); ทึกลอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน); ปันม้า, ส้านแดง,
ส้านแดงใหญ่, สารภี, สารภีควาย, สารภีดอย, สารภีหมู, สุน (เชียงใหม่)

ลักษณะพฤษศาสตร์ : ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่นที่ปลายกิ่ง รูปรี รูปขอบขนาน 
ยาว 4–16 ซม. ปลายมนหรือกลม โคนรูปลิ่ม 
แผ่นใบด้านล่างมักมีนวลและต่อมสีน้ำตาลกระจาย 
ขอบเรียบหรือจักซี่ฟันช่วงปลายใบ ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น ออกตามซอกใบ ก้านดอกยาว 2–7 ซม.
ใบประดับย่อย 2 ใบ รูปสามเหลี่ยม  ติดทน ขอบมีต่อม 
กลีบเลี้ยงสีน้ำตาลอมแดงเรียงซ้อนเหลื่อม มี 5 กลีบ
รูปไข่กว้าง
 ดอกสีครีมหรือเหลืองอ่อน ๆ ยาวประมาณ 1.5 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปไข่ ปลายแหลม
ผลรูปรีเกือบกลม ฃ
ผนังแข็ง แตกตามรอยกลีบเลี้ยง รูปไข่กลับ ยาว 0.7–1.2 ซม. มีเยื่อหุ้มสดสีแดง

การกระจายพันธุ์ : พบมากทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบประปรายทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
และภาคใต้ ขึ้นตามป่าเต็งรัง ป่าสนเขา และป่าดิบเขา ความสูง 100–2,000 เมตร

สรรพคุณ : ดอกมีสรรพคุณบำรุงหัวใจ ใบและกิ่งใช้แก้ไข้มาลาเรีย

  

 

ที่มา : https://www.dnp.go.th/botany/mindexdictdetail.aspx?runno=5624