ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 2 (ขอนแก่น)

ประวัติความเป็นมา

   งานด้านศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ได้ถูกตั้งขึ้นในส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ต่อมางานด้านนี้ได้มี ความสำคัญมากขึ้น จนกระทั่งปี พ.ศ. 2522 กรมป่าไม้ได้จัดตั้งฝ่ายปราบศัตรูพืชป่าไม้ สังกัดกองบำรุง และมีการขยายงานไปสู่ส่วนภูมิภาค โดยในปี พ.ศ. 2522 มีการจัดตั้งศูนย์ปราบศัตรูพืชป่าไม้ภาคเหนือเป็นแห่งแรก ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ในวันที่ 4 ตุลาคม 2526 จัดตั้งศูนย์ปราบศัตรูพืชป่าไม้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และต่อมาในปี 2533 จัดตั้งศูนย์ปราบศัตรูพืชป่าไม้ ภาคตะวันออก ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ถือเป็นศูนย์ปราบศัตรูพืชป่าไม้แห่งสุดท้ายที่ถูกจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2535 ย้ายมาสังกัดกลุ่มวิจัยแมลงและศัตรูพืชป่าไม้ ส่วนวิจัยและ พัฒนาสิ่งแวดล้อมป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ พร้อมเพิ่มภารกิจด้านการวิจัย และต่อมาเปลี่ยนชื่อจากศูนย์ปราบศัตรูพืชป่าไม้เป็น ศูนย์วิจัยและควบคุมศัตรูพืชป่าไม้ ในปี พ.ศ. 2548 เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นศูนย์วิจัยกีฏวิทยาป่าไม้ สังกัดกลุ่มงานกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาป่าไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานที่ ย้ายสังกัดจากกรมป่าไม้มาสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกรมนี้ครั้งแรก ศูนย์วิจัยกีฏวิทยาป่าไม้ที่ 2 สังกัดส่วนพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช ปี พ.ศ. 2561 ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 2 (ขอนแก่น) ได้รับพิจารณาเป็นพื้นที่เปิดโครงการป่าในเมือง “สวนป่าประชารัฐ เพื่อความสุขของคนไทย” ตามมติคณะกรรมการจัดทำโครงการป่าในเมือง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 เพื่อสร้างการรับรู้ความเข้าใจในบทบาทและภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ในการดูแลและรักษาพื้นที่เพื่ออำนวยการประโยชน์ให้กับประชาชน เพื่อเป็นสถานที่ออกกำลังกาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านต่างๆ และปัจจุบัน (พศ. 2562) ย้ายมา สังกัดกลุ่มงานกีฏวิทยาและจุลชีววิทยาป่าไม้ เปลี่ยนชื่อจากศูนย์วิจัยกีฏวิทยาป่าไม้ที่ 2 เป็นศูนย์วิจัยการ อนุรักษ์ป่าไม้ที่ 2 (ขอนแก่น) 

พื้นที่รับผิดชอบ   ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 2 (ขอนแก่น) มีพื้นที่รับผิดชอบสำหรับการปฏิบัติงานจำนวน 19 จังหวัด คือ ขอนแก่น เลย อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ สกลนคร ชัยภูมิ ศรีษะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ มุกดาหาร สารคาม บึงกาฬ หนองคาย ร้อยเอ็ด นครพนม ยโสธร และอีก ๑ จังหวัดภาคเหนือ คือ เพชรบูรณ์  

ที่ตั้งและอาณาเขต

ศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 2 (ขอนแก่น) มีเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ตั้งอยู่ริมทางหลวง บริเวณหลัก กิโลเมตรที่ 110 - 111 ถนนมลิวรรณ ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น พิกัด UTM 47Q 0819578 1851565 ลักษณะภูมิประเทศภายนอกและภายในศูนย์ฯ เป็นที่ราบ มีความสูงของพื้นที่จาก ระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 304 เมตร

 

หัวหน้าศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 2 (ขอนแก่น)

นายนพชนม์ ทับทิม นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ

อัตรากำลัง

  • ข้าราชการ จำนวน 2 ราย
  • พนักงานราชการ  จำนวน 4 ราย
  • ลูกจ้าง TOR  จำนวน 11 ราย

สถานที่น่าสนใจภายในหน่วยงาน

   ศูนย์วิจัยฯ พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้จำนวน ๗ ฐานความรู้ สำหรับรองรับ สถาบันการศึกษาและ ประชาชนทั่วไป 

1. อาคารนิทรรศการ เป็นอาคารที่รวบรวมแมลงในท้องถิ่น ภายในจัดแสดงแมลงนานาชนิด ที่ได้จัด รูปร่างตามหลักวิชาการ ในตู้กระจกและกล่องเก็บตัวอย่างแมลง รวมถึง บอร์ดนิทรรศการที่รวบรวมองค์ ความรู้เรื่องของแมลงที่แปลกใหม่และน่าค้นหา ไว้โดยรอบอาคาร เช่น ประวัตินักกีฏวิทยา ผลงานทางวิชาการ ที่น่าสนใจทั้งของศูนย์ฯ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวบรวมตัวอย่างแมลง โดยจัดจำแนกตามอันดับ (Order) ที่สำคัญ เช่น ด้วง ผีเสื้อ มวน และรู้จักชนิดของแมลงคุ้มครอง ที่มีกฎหมายได้กำหนดไว้ห้ามล่า หรือห้ามมีไว้ ในครอบครอง

 

2. ฮังแมลง (สถานที่เลี้ยงแมลง) แหล่งรวบรวมแมลงในท้องถิ่นที่เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ได้มีแมลง ที่เพาะเลี้ยงได้มากกว่า 30 ชนิด สัมผัสกับแมลงหลากชนิด ดูวิถีการดำรงชีวิต การล่าเหยื่อ การพรางตัว และ ท่านสามารถให้อาหารแก่แมลงเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง เช่น กว่างชน ตั๊กแตนกิ่งไม้ยักษ์แมกนัส แมงมุมโกลเด้นนี บึ้งสีน้ำเงิน บึ้งดำ และหนอนผีเสื้อกลางวันหลากหลายชนิด

3. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางยาวประมาณ 350 เมตร ภายในเส้นทางได้จัดทำโป่งเทียม สำหรับเป็นอาหารของผีเสื้อกลางวัน จำนวน 5 โป่ง ได้แก่ โป่งมูลสัตว์ โป่งธรรมชาติ โป่งผลไม้ โป่งปลาร้า และโป่งเศษอาหาร พร้อมป้ายสื่อความหมาย และเป็นเส้นทางสำหรับให้ผู้ที่สนใจได้เดินสำรวจชนิดผีเสื้อ กลางวันของศูนย์ที่สามารถพบเห็นได้ในแต่ละฤดู

4. สวนผีเสื้อ (เฮือนฮักผีเสื้อ) มีพื้นที่ 1 งาน ภายในสวนมีผีเสื้อกลางวันหลากหลายชนิด เป็นผีเสื้อที่ ได้จากการเพาะเลี้ยง นักท่องเที่ยวสามารถอยู่ใกล้ชิดกับผีเสื้อ ที่ดูดกินน้ำหวาน การจับคู่ผสมพันธุ์ และการ วางไข่ “เฮือนฮักผีเสื้อ” เปรียบเสมือนบ้านเรือนของผีเสื้อที่อยู่อาศัยด้วยความรัก 

5. ห้องแมลงปอ เป็นห้องปฏิบัติการด้านแมลง รองรับได้มากกว่า 40 คน ใช้เป็นห้องสันทนาการ หรือทำกิจกรรมบรรยายอื่น ๆ และยังสามารถจัดการประชุม หรืออบรมเชิงปฏิบัติการได้ 

6. แปลงพืชอาหารหนอน เป็นแหล่งรวบรวมชนิดหลากหลายชนิด เพื่อให้ทราบถึงชนิดพืช และ ศึกษาการดำรงชีวิติของหนอนผีเสื้อกลางวัน นักท่องเที่ยวสามารถฝึกการสังเกต โดยการมองหาหนอนขนาด เล็กที่กินใบไม้ หรือสังเกตหาไข่ของผีเสื้อที่อยู่ด้านล่างของใบ

7. กรงผสมพันธุ์ผีเสื้อ มีมากกว่า 10 กรง เป็นแหล่งรวบรวมพ่อแม่พันธุ์และเก็บไข่ของผีเสื้อแม่ พันธุ์ที่วางไว้ในกรง เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการเลี้ยง มีการปรับขนาดของกรงผสมพันธุ์เป็นหลายขนาด เช่น กรงขนาด 4 x 4 เมตร กรงขนาด 2 x 3 เมตร กรงขนาด 2 x 2 เมตรและกรงขนาด 1 x 1 เมตร ขนาดของ กรงที่ไม่เท่ากันนั้น เพื่อความเหมาะสมต่อผีเสื้อชนิดต่าง ๆ

 

 

 

10 เมษายน 2566